สถานการณ์น้ำท่วมใต้ เริ่มคลี่คลาย หลังฝนตกน้อยลง ขณะที่เหนือ ยังคงปรัสบภัยแล้ง

ฝนที่ตกลดลงในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดภาคใต้คลี่คลายลง แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวัง และเริ่มสำรวจความเสียหายจากฝนตก น้ำท่วมก่อนหน้านี้

จ.กระบี่ หลังปริมาณฝนลดลง ส่งผลให้น้ำในคลองทับปริก คลองกระบี่ใหญ่ ที่รับน้ำมาจากเทือกเขาพนมเบญจา เมื่อสองวันก่อนมีปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่า หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ สถานการณ์จะคลี่คลายดีขึ้น ล่าสุดทางจ.กระบี่ได้สั่งให้เจ้าที่ให้ตรวจสอบความเสียหายพื้นที่การเกษตร และความเสียหายต่อทรัพย์สิน ที่อาจะเกิดขึ้นในช่วงที่มีฝนตกและน้ำหลาก เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน

เช่นเดียวกับเทศบาลต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูลขึ้นธงเขียวแทนสัญลักษณ์ธงเหลือง หลังฝนหยุดตก และน้ำในคลองฉลุงลดระดับลง เข้าสู่ภาวะปกติ แต่เทศบาลยังย้ำเตือนชาวบ้านให้ระมัดระวังสถานการณ์ที่อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันอีกระลอก เนื่องจากท้องฟ้ายังมีเมฆฝน

ส่วนที่จ.พังงาและจ.ตรัง น้ำป่าที่ไหลจากเทือกเขาบรรทัดเข้าท่วมในพื้นที่อ.ปะเหลียนเมื่อวานนี้ (30 ส.ค.55) คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติเช่นกัน แต่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยยังเตือนประชาชนให้ติดตามสถานการณ์น้ำจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่องเพื่อความไม่ประมาท

ส่วนจังหวัดภาคเหนือมีทั้งพื้นที่ประสบกับอุทกภัย และ ภัยแล้ง โดยที่จ.ตาก ในขณะที่ชาวต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด เรียกร้องให้เทศบาลต.ท่าสายลวด เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซาก ในพื้นที่บ้านแม่ตาว จากน้ำในแม่น้ำเมยเอ่อท่วมชุมชน แต่พื้นที่ ต.วังจันทร์ อ.สามเงา กลับประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงหลายเดือน ก็ส่งผลให้ชาวสวนฝรั่งได้รับความเดือดร้อนจากเพลี้ยแป้งระบาด

ขณะที่ภัยแล้งจ.ลำปาง ทำให้ชาวบ้าน ต.ปงแสนทอง อ.เมืองลำปาง และต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา หันไปประกอบพิธีขอฝนตามความเชื่อ หลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำหนักในรอบ 20 ปี จนนาข้าวได้รับผลกระทบ แล้วกว่า 1,500 ไร่

ส่วนที่จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างองค์การบริหารส่วนต.วัดไทร อ.เมือง เร่งสร้างแนวหินทิ้ง บริเวณริมตลิ่งประตูระบายน้ำคลองน้ำตก ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อป้องกันไม่ให้แนวตลิ่งที่อยู่ติดกับถนนระหว่างหมู่บ้านพังทลาย และทรุดตัว พร้อมรับมือสถานการณ์ในช่วงฤดูน้ำหลาก