แพทย์เตือนปชช.ระวัง"โรคแทรกซ้อน"จากการฉีดฟีลเลอร์

สังคม
25 ก.ย. 55
07:28
119
Logo Thai PBS
แพทย์เตือนปชช.ระวัง"โรคแทรกซ้อน"จากการฉีดฟีลเลอร์

แพทย์สถาบันโรคผิวหนังเตือนประชาชนใม่ให้หลงเชื่อคำโฆษณาการฉีดฟีลเลอร์ว่าจะสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ เพราะขณะนี้พบการระบาดของสารฟีลเลอร์ที่ไม่สลายตัวได้เอง ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนกับผู้ทำศัลยกรรมจำนวนมาก โดยขอให้ฉีดฟิลเลอร์จากแพทย์โรคผิวหนังเท่านั้น

นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ รักษาราชการเเทนผู้อำนวยการ สถาบันโรคผิวหนัง ระบุว่า อาการเเทรกซ้อนของผู้เข้ารับบริการฉีดสารเติมเต็ม หรือ ฟีลเลอร์ จะพบรอยจ้ำเลือด รูปหน้ามีลักษณะบวมผิดปกติ เป็นผื่นเเดง ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานจากสมาชิกเเพทย์ผิวหนังถึงอาการเเทรกซ้อนในลักษระดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยการฉีดสารฟีลเลอร์ ได้รับความนิยมในช่วง 1 - 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากให้ผลการรักษาที่ดีสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณ หน้าผาก หางตา ร่องเเก้ม รอยเเผลเป็น ซึ่งผู้เข้ารับบริการมีความสะดวก ไม่ได้รับความเจ็บปวดและไม่เสียเวลาพักฟื้น

เเต่ทั้งนี้พบว่า ประชาชนจำนวนมาก หลงเชื่อในคำโฆษณา ที่อวดอ้างว่าสารฟีลเลอร์สลายตัวได้ เเต่เป็นชนิดที่ไม่สลายตัว ส่งผลให้เกิดอาการเเทรกซ้อนขึ้น ได้เเก่ เกิดผื่นเเดงรอยนูน เกิดปัญหาการเคลื่อนย้าย เช่น ฉีดที่ดั้งจมูก เเต่สารฟีลเลอร์ไหลไปรวมที่ปลายจมูก ทั้งนี้มีอาการเเพ้สารฟีลเลอร์ เป็นรอยนูนเเดงเเละมีอาการอักเสบบริเวณที่ฉีด รวมถึงหากฉีดสารฟีลเลอร์ผิดตำเเหน่งเข้าไปยังหลอดเลือด อาจทำให้หลอดเลือดอุดตัน ซึ่งขณะนี้พบผู้ที่ฉีดสารฟีลเลอร์เเล้วตาบอดเนื่องจากสารฟีลเลอร์เข้าไปอุดตันหลอดเลือดไปเลี้ยงจอประสาทตา

สมาคมเเพทย์ผิวหนังเเห่งประเทศไทยเเนะนำให้ประชาชนศึกษาข้อมูล รวมถึงผลข้างเคียงที่จะได้รับจากการฉีดสารฟีลเลอร์ รวมถึงต้องตรวจสอบมาตรฐานเเพทย์ผู้ให้บริการ เเละอุปกรณ์ว่ามีมาตรฐานหรือไม่ เนื่องจากการฉีดสารฟีลเลอร์ต้องฉีดด้วยเเพทย์ผิวหนังเท่านั้น โดยประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อเเพทย์ผิวหนังได้ที่ www.dst.or.th ซึ่งขณะนี้มีสารฟีลเลอร์ที่ อย.ให้การรับรองเพียงชนิดเดียวคือ สารฟิลเลอร์แบบชั่วคราว มีอายุใช้งาน 4-6 เดือน ส่วนสารฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวรมีอายุใช้งานประมาณ 2ปี และสารฟีลเลอร์แบบถาวร เช่น ซิลิโคลนหรือพาราฟิน ไม่สลายตัวตามธรรมชาติ ซึ่งขณะนี้อย.ยังไม่รับรอง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง