หลังจากที่องค์กรต่อต้านสารกระตุ้นของสหรัฐฯ หรือยูเอสเอดีเอได้ตรวจสอบพบความผิดของ แลนซ์ อาร์มสตรอง ที่ใช้สารกระตุ้นในการแข่งขันระหว่างปี 1998-2005 พร้อมทั้งมีคำสั่งริบแชมป์ตูร์ เดอ ฟร้องซ์ 7 สมัย รวมถึงแชมป์รายการอื่น และยังลงโทษห้ามแข่งตลอดชีวิต ล่าสุด คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือไอโอซีได้เปิดเผยผ่านสำนักข่าวรอยเตอร์สโดยยืนยันว่าไอโอซีจะตรวจสอบรายงานของยูเอสเอดีเอ รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งไอโอซีจะยังไม่ดำเนินการใดๆ กับ แลนซ์ อาร์มสตรอง
สำหรับแลนซ์เคยคว้าเหรียญทองแดงกีฬาโอลิมปิกเกมส์ที่ซิดนี่ย์ในปี 2000 โดยเป็นการแข่งขันจักรยานประเภทไทม์ไทรอัล ด้านแบรดลี่ย์ วิกกิ้นส์ น่องเหล็กชาวอังกฤษเจ้าของแชมป์ตูร์ เดอ ฟร้องซ์คนล่าสุดก็ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีของแลนซ์ อาร์มสตรองเช่นกัน โดย วิกกิ้นส์ ยอมรับว่ารู้สึกตกใจกับหลักฐานต่างๆ มากมายของยูเอสเอดีเอที่พบการใช้สารกระตุ้นต้องห้ามมาอย่างยาวนาน และมีการทำเป็นกระบวนการโดยบุคคลหลายฝ่ายไม่ใช่เฉพาะแต่นักกีฬาเท่านั้น
ขณะที่ความเคลื่อนไหวมูลนิธิไลฟ์สตรองของแลนซ์ อาร์มสตรอง ที่คอยช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งเช่นเดียวกับที่ แลนซ์ เคยเป็นโรคนี้ก่อนจะต่อสู้จนหายขาด ล่าสุดนายดาเนี่ยล โบโรชอฟฟ์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิแชร์ริตี้ วอช ออกมาแนะนำให้ แลนซ์ ก้าวออกจากการทำหน้าที่ในมูลนิธิของตัวเอง เพราะจากปัญหาดังกล่าวได้กระทบต่อภาพลักษณ์ของมูลนิธิ สำหรับแลนซ์เป็นหนึ่งใน 16 บอร์ดบริหาร และเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิไลฟ์สตรอง ซึ่งนายดาเนี่ยลยังแนะนำให้แลนซ์ผันตัวเองมาทำงานเบื้องหลังด้วยการเป็นที่ปรึกษาเพื่อช่วยเหลืองานในมูลนิธิต่อไป
ก่อนหน้านี้ มูลนิธิไลฟ์สตรองยืนยันว่าพวกเขาจะยังคงสนับสนุนแลนซ์ อาร์มสตรอง เช่นเดิม แม้เจ้าตัวจะถูกตัดสินว่ามีความผิดจากการใช้สารกระตุ้นจากยูเอสเอดีเอก็ตาม ส่วนหลักฐานรายงานกว่า 1,000 หน้าที่ยูเอสเอดีเอส่งให้สหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือยูซีไอพิจารณานั้น นายจอห์น ฟาเฮย์ ประธานองค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก หรือวาด้า กล่าวว่า ยูซีไอมีเวลาตัดสินใจ 21 วันในการยื่นอุทธรณ์หลักฐานของยูเอสเอดีเอ และหลังจากนั้นวาด้ามีเวลาอีก 21 วัน เพื่อเข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบการอุทธรณ์ดังกล่าว