ปั้มน้ำมันแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ปิดหลายแห่ง ผลกระทบน้ำมันเถื่อน
กลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย อ้างว่า น้ำมันเชื้อเพลิงกว่า 10,000 ลิตรภายในโกดังของด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เป็นส่วนแบ่งที่ต้องจัดสรรให้กับเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ แทนการจ่ายด้วยเงินสด เดือนละกว่า 70,000 ลิตร แบ่งเป็นน้ำมันดีเซล 30,000 ลิตร , น้ำมันเบนซิน ประมาณ 40,000 ลิตร เพื่อนำไปขายกับหน่วยงานรัฐ ก่อนนำเงินไปแบ่งกันภายในหน่วยงาน พร้อมระบุนอกจากจ่ายเงินให้กับหน่วยงานที่มีหน้าที่จับกุมแล้ว ยังต้องจ่ายให้กับหน่วยงานรัฐอื่นๆอีกไม่ต่ำกว่า 3 หน่วยงาน ตลอดแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ตั้งแต่อำเภอสะเดา ไปจนถึงอำเภอหาดใหญ่ รวมถึงด่านต่างๆ อีกด่านละ 500 บาท
ขณะที่เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรปาดังเปซาร์ กล่าวปฎิเสธ การเรียกรับผลประโยชน์ แต่ยอมรับว่า ศุลกากรปาดังเบซาร์ได้นำน้ำมันเถื่อนเก็บไว้ในโกดังจริง เพราะมีการลักลอบขนมากเกินกว่าด่านศุลกากรอนุญาต และได้นำน้ำมันไปขายหน่วยงานราชการด้วยกัน ก่อนนำเงินที่ได้ตกเป็นของแผ่นดิน
ส่วนปั๊มน้ำมันในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และ ปั๊มน้ำมันใกล้แนวพรมแดนไทย-มาเลเซีย ด้านอำเภอสะเดา หลายแห่งได้ปิดกิจการลง หลังน้ำมันเถื่อนได้รับความนิยมจากผู้ใช้รถ เนื่องจากมีราคาถูก