ชาวมุสลิมโรฮิงยา-ชาวพุทธในรัฐยะไข่ปะทะรอบใหม่ เสียชีวิตแล้ว 3 คน

ชาวมุสลิมโรฮิงยาและชาวพุทธในรัฐยะไข่ของพม่า เปิดศึกปะทะกันรอบใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบ้านเรือนหลายร้อยหลังถูกไฟไหม้ ขณะที่ยังควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ส่งผลให้การปะทะกันยืดเยื้อเป็นวันที่ 2

เกิดเหตุปะทะกันรอบใหม่ ระหว่างชาวมุสลิมโรฮิงยาและชาวพุทธในรัฐยะไข่ของพม่า เมื่อวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน เป็นชายชาวยะไข่ 1 คน และหญิงมุสลิม 2 คน หัวหน้าสำนักงานยุติธรรมรัฐยะไข่เผยว่าควบคุมสถานการณ์ได้ยากมาก และไม่มีข้อมูลว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บกี่คน ขณะที่มีบ้านหลายร้อยหลังถูกวางเพลิงท่ามกลางความวุ่นวาย เพราะการประกาศห้ามออกนอกบ้านยามวิกาลหรือประกาศเคอร์ฟิวก็ไม่ได้ผล การปะทะกันจึงยืดเยื้อเป็นวันที่ 2 และยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลง

ส่วนการปะทะกันครั้งแรก ในเดือนมิถุนายน ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน และมีชาวมุสลิมกว่า 5 หมื่นคนและชาวพุทธกว่า 1 หมื่นคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย อีกทั้ง มีชาวโรฮิงยาจำนวนมากพยายามลี้ภัยในบังคลาเทศ แต่ถูกทางการบังคลาเทศขับไล่ เพราะบังคลาเทศไม่มีนโยบายรับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยาเพิ่มเติม ขณะที่ทางการพม่ามองว่าชาวโรฮิงยาเป็นผู้อพยพผิดกฎหมาย ชาวโรฮิงยาในพม่าจึงถูกจำกัดสิทธิต่างๆ เช่น การเคลื่อนไหว การหางานทำ การได้รับการศึกษาและการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข ส่งผลให้สหประชาชาติและองค์กรสิทธิมนุษยชนต่างๆ เรียกร้องให้บังคลาเทศให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวโรฮิงยา

ขณะที่พล.อ.เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีพม่า ให้สัมภาษณ์กับสื่อพม่าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา(20 ต.ค.) ว่าพม่าจำเป็นต้องรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากนานาชาติเพื่อช่วยชาวโรฮิงยา มิฉะนั้น พม่าก็จะไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคมโลก