Yellowface กับการเหยียดชาวเอเชียในฮอลลีวูด

Logo Thai PBS
Yellowface กับการเหยียดชาวเอเชียในฮอลลีวูด

ขณะที่สิทธิของชาวแอฟริกันอเมริกันได้รับการยอมรับเกือบทุกหน่วยของสังคมในสหรัฐฯ ผิดกับชาวเอเชียที่ยังถูกปฏิบัติเหมือนไม่มีตัวตนในสังคม เห็นได้จากพื้นที่อันน้อยนิดบนจอภาพยนตร์ ที่หากไม่ถูกดัดแปลงเนื้อหาให้เป็นตะวันตก ก็จะถูกนักแสดงผิวขาวมาสวมบทแทนเสมอ

เนื้อหาที่ครอบคลุมเรื่องราวตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 จนถึงยุคหลังวันสิ้นโลกในปี 2144 ของ Cloud Atlas ทำให้ให้นักแสดงในเรื่องต้องเล่นเป็นตัวละครหลากหลายเชื้อชาติ แต่การให้นักแสดงผิวขาวทั้ง จิม สเตอร์เจส, ฮิวโก วีฟวิง, เจมส์ ดาซี่ หรือนักแสดงผิวดำอย่าง คีธ เดวิด มาแปลงโฉมเป็นชาวเอเชียด้วยเทคนิกการแต่งหน้าให้มีตาชั้นเดียว ถูกทางเครือข่ายสื่อเพื่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียวิจารณ์ว่าเป็นหนังเหยียดเชื้อชาติ และเป็นอีกครั้งที่บทของชาวเอเชียถูกแย่งไปโดยนักแสดงผิวขาว

Yellowface หรือวิธีการคัดเลือกนักแสดงผิวขาวให้มารับบทคนเอเชีย ที่มีมาตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของฮอลลีวูด จากความเชื่อว่าคนเอเชียอพยพไม่มีความสามารถในการแสดง และยังไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ จึงมีการให้นักแสดงผิวขาวมาเล่นเป็นชาวเอเชียทั้ง Mary Pickford ในบท โจโจ้ซังจาก Madame Butterfly, Katherine Hepburn เป็นเจดใน Dragon Seed, John Wayne เป็นเจงกิสข่านใน The Conquerer หรือ Marlon Brando เปลี่ยนโฉมเป็น ซากินิ ชาวบ้านจอมเจ้าเล่ห์ใน The Teahouse of the August Moon

แม้ยุคหลังจะมีนักแสดงเชื้อสายเอเชียในฮอลลีวูดมากขึ้น แต่บทบาทที่ได้รับยังจำกัดอยู่ในภาพจำเก่าๆ ที่ชาวตะวันตกมีต่อชาวเอเชียทั้งเจ้าของร้านชำ, โสเภณี หรือคนรับใช้ ฮอลลีวูดยังใช้วิธีเปลี่ยนเชื้อชาติตัวละครดั้งเดิมจากชาวเอเชียเป็นคนผิวขาว ดังที่เห็นได้ใน The Magnificent Seven จนถึงหนังรุ่นใหม่อย่าง 21 และ The Last Airbender แม้การ์ตูนญี่ปุ่นจะได้รับความนิยมมากขึ้นในวัยรุ่นอเมริกัน แต่บทฮีโร่ในฉบับภาพยนตร์กลับเป็นของนักแสดงผิวขาวทั้งสิ้น เช่น Dragonball: Evolution หรือ Speed Racer

การที่ภาพยนตร์ใหม่หลายเรื่องของฮอลลีวู้ดยังคงใช้ นักแสดงอย่าง คีอานู รีฟ มาแสดงเป็นซามูไรใน 47 Ronin, เบน คิงสลีย์ เป็นวายร้ายแมนจูเรียนใน Iron Man 3 และ มิคกี้ โรค เป็น Genghis Khan แสดงให้เห็นถึงกระแส Yellowface ที่ไม่มีทีท่าว่าจะหายไปจากฮอลลีวูด ขณะที่ Blackface หรือการให้คนผิวขาวแสดงเป็นคนดำกลายเป็นพฤติกรรมต้องห้ามในสังคมอเมริกันมาหลายทศวรรษ ชาวเอเชียไม่น้อยจึงหวังว่าสักวันการเหยียดเชื้อชาติผ่านภาพยนตร์เช่นนี้จะหมดไปจากวงการบันเทิงในอนาคต


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง