นายบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางกลับนครชิคาโกระหว่างการเดินสายหาเสียง และ ใช้โอกาสนี้ในการลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีล่วงหน้า นับเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีที่ยังดำรงตำแหน่งใช้สิทธิเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้งจริงสะท้อนให้เห็นยุทธศาสตร์ของทีมหาเสียงของผู้นำสหรัฐที่ต้องการกระตุ้นให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าให้มากที่สุด เพราะเคยใช้ได้ผลในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว
ขณะที่นายมิตต์ รอมนีย์ เดินทางสู่รัฐโอไฮโอเพื่อหาเสียงสนับสนุนพร้อมเรียกร้องให้ประชาชนไปลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าเช่นกัน โดยการหาเสียงที่รัฐโอไฮโอของนายรอมนีย์ ถือว่า มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากรัฐโอไฮโอ เป็นหนึ่งในสวิงสเตท หรือ รัฐที่ยังไม่ชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้ชนะ และที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้สมัครพรรครีพับลิกันคนใดที่แพ้ในรัฐโอไฮโอ้แล้วจะได้เป็นประธานาธิบดี แต่ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุด ชี้ว่านายโอบามายังมีคะแนนนิยมนำในรัฐโอไฮโอ
ทีมที่ปรึกษาของนายโอบาม่า เปิดเผยเงื่อนไข 3 แนวทางที่จะทำให้ชนะการเลือกตั้ง นั่นคือ ผู้นำสหรัฐจะต้องชนะที่รัฐโอไฮโอ ไอโอว่า และ วิสคอนซิน , ชนะที่โอไฮโอ ไอโอว่า และ เนวาด้า หรือ ชนะที่รัฐที่นั่งน้อยรวม 5 รัฐ คือไอโอว่า นิวแฮมเชียร์ วิสคอนซิน เนวาด้า และ โคโรลาโด้
ส่วนทางทีมของรอมนีย์ยังไม่เปิดเผยเงื่อนไขการชนะเลือกตั้ง แต่ถ้าหากเขาไม่สามารถคว้าชัยที่รัฐโอไฮโอ้ได้ นายรอมนีย์ จะต้องเอาชนะในรัฐที่เหลือทั้ง 8 รัฐให้ได้จึงจะมีที่นั่งคณะผู้แทนเลือกตั้งถึง 270 ที่นั่งที่จะเป็นตัวชี้วัดผู้ชนะการเลือกตั้ง
มีรายงานว่า พล.อ.โคลิน พาวเวลล์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐในสมัยนายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ออกมาแสดงความสนับสนุนนายโอบาม่าอีกครั้ง ซึ่งเมื่อ 4 ปีก่อน เขาเคยให้การสนับสนุนนายโอบาม่ามาแล้ว โดยคราวนี้เขาให้เหตุผลว่า นายโอบาม่าจะเป็นผู้นำที่พาประเทศออกจากสงคราม และไม่กระโดดเข้าสู่สมรภูมิอีกผิดกับนายรอมนีย์ ที่จะทำให้ประเทศเป็นเป้าโจมตีเคลื่อนที่ส่วนเรื่องเศรษฐกิจก็เริ่มฟื้นตัวบ้างแล้ว
หนึ่งในที่ปรึกษาคนสำคัญของนายรอมนีย์ ออกมาให้ความเห็นว่า การที่ พล.อ.พาวเวลล์ สนับสนุนนายโอบาม่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องเชื้อชาติ แต่หลังจากนั้นไม่นานเขารีบออกแถลงการณ์แก้ไขคำพูดดังกล่าว โดยระบุว่าเขาเชื่อว่า พล.อ.พาวเวลล์ ต้องการสนับสนุนประธานาธิบดีสหรัฐฯด้วยใจจริง
ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า น่าจะเป็นเพราะขณะนี้นายรอมนีย์ไม่ต้องการให้เรื่องเชื้อชาติมาเป็นปัจจัยเพิ่มในการเลือกตั้ง เพราะก่อนหน้านี้นายรอมนีย์ ต้องแก้ไขสถานการณ์ หลังผู้สมัคร ส.ว.ของพรรค ให้ความเห็นว่า ผู้หญิงที่ตั้งท้องเพราะการข่มขืนเป็นเพราะความต้องการของพระเจ้าซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่กลุ่มสิทธิสตรีจำนวนมาก
ขณะที่นางมิเชล โอบาม่า สตรีหมายเลขหนึ่ง ไปร่วมรายการเลทโชว์ในช่วงสุดท้ายของการหาเสียง โดยเธอเชื่อมั่นว่า สามีของเธอไม่มีทางแพ้การเลือกตั้งครั้งที่ 2 และไม่มีทางที่จะโล่งใจ หรือ ดีใจ หากว่า สามีพลาดหวังในการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 แม้การเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งจะทำให้ชีวิตวุ่นวาย แต่เธอทราบดีว่าการเป็นประธานาธิบดียากยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น