สำเนียงดนตรีที่มีกลิ่นของเพลงป๊อบร่วมสมัยมากเกินไป ทำให้ We Are Never Ever Getting Back Together ซิงเกิลเปิดตัวอัลบั้มล่าสุดของ Taylor Swift ไม่เป็นที่นิยมของแฟนเพลงคันทรีส่วนใหญ่ แต่ไม่เป็นปัญหาในการขึ้นสู่อันดับหนึ่งบนชาร์ตเพลงคันทรี หลังจากบิลบอร์ดชาร์ตเปลี่ยนนโยบายการจัดอันดับให้คำนวนโดยรวมยอดการเผยแพร่บทเพลงแบบดิจิตอลเป็นครั้งแรกในเดือนที่แล้ว
ในอดีตบิลบอร์ดจัดอันดับความนิยมจากยอดขายแผ่นเสียงหรือซีดี และความถี่ของการนำเสนอบทเพลงตามสถานีวิทยุต่างๆ แต่ปัจจุบันที่ผู้ฟังหันมาบริโภคเพลงแบบดิจิตอลมากขึ้น บิลบอร์ดจึงนำยอดดาวน์โหลด และความนิยมบนเว็บไซต์ฟังเพลงมาร่วมในการจัดอันดับ รวมทั้งยกเลิกการวัดความนิยมจากสถานีวิทยุเฉพาะแนว และหันมาสำรวจความนิยมโดยรวมจากทั้ง 1,200 สถานีทั่วสหรัฐฯ เพื่อสะท้อนความนิยมของวงการเพลงในปัจจุบันให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้กลับสร้างปัญหาให้กับชาร์ตเพลงที่แยกตามแนวดนตรี เมื่อผลงานที่มีแนวทางชัดเจนกลับสู้ความนิยมเพลงของเพลงป็อปที่เข้าถึงแฟนเพลงมากกว่าไม่ได้ เห็นได้จากการขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ต Hot R&B-Hip Hop Songs ของเพลง Diamonds ของ Rihanna ทั้งที่แฟน R&B มองว่าเป็นแค่เพลงป็อปธรรมดา ในชาร์ต Hot Country Songs เพลงคันทรีแท้ๆ อย่าง Blown Away ของ Carrie Underwood ยังต้องพ่ายให้กับเพลงป็อป คันทรีของ Taylor Swift ขณะที่ Gangnam Style ก็ครองแชมป์ชาร์ต Rap Songs แม้คนวงการฮิปฮอปจะมองว่าวิธีร้องของ Psy ในเพลงนี้ไม่ใช่การแร็ปก็ตาม
กฏดังกล่าวยังทำให้เพลงจากอัลบั้มที่โด่งดังเข้ามาอยู่ในชาร์ตอย่างง่ายดาย เช่น Mumford & Sons ที่แต่เดิมมีเพียงซิงเกิล I Will Wait เข้าชาร์ต Rock Songs แต่พอมีการเปลี่ยนกฏ ผลงานจากอัลบั้ม Babel ของวงที่ทำยอดขายได้ถึง 9 แสนชุดในเดือนเดียว ก็ส่งเพลงเข้า 20 อันดับแรกของชาร์ต Rock Songs อีกถึง 7 เพลง
แม้การวัดความนิยมแบบใหม่ของบิลบอร์ดจะทำให้ศิลปินยุคดิจิตอลไม่ต้องง้อสถานีวิทยุอีกต่อไป แต่ผลเสียจากการจัดอันดับโดยคำนึงแต่เสียงข้างมากอย่างเดียว จะทำให้ค่ายเพลงหันมาสนับสนุนแต่ศิลปินที่เข้าถึงผู้ฟังในวงกว้างเป็นหลัก และอาจทำให้อนาคตของวงการเพลงอาจไร้ซึ่งความหลากหลาย เพราะเหลือแต่นักร้องที่ประสบความสำเร็จในการผสานแนวดนตรีเฉพาะตนกับแนวป็อปร่วมสมัยเท่านั้น