ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ ชี้พ่อแม่ติดเอดส์ไม่บอกลูกกว่าร้อยละ 90

สังคม
1 พ.ย. 55
07:45
413
Logo Thai PBS
ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ ชี้พ่อแม่ติดเอดส์ไม่บอกลูกกว่าร้อยละ 90

ครอบครัวที่พ่อแม่ติดเชื้อเอชไอวีกว่าร้อยละ 90 ไม่ยอมเปิดเผยความจริงให้ลูกหรือสมาชิกในครอบครัวได้รับรู้ ส่งผลให้ผู้ติดเชื้่อ มีความเครียดและต้องเผชิญปัญหาคนเดียว ดังนั้นผู้ติดเชื้อจะต้องเตรียมความพร้อมก่อนบอกความจริงกับลูกตั้งแต่อายุยังน้อย

ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เปิดตัวโครงการ มัม เทล มัม เลิฟ ความสำเร็จในการเสริมสร้างสัมพันธภาพภายในครอบครัวเพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเผยผลเลือดเอชไอวีของพ่อแม่กับลูก โดยพบว่า ครอบครัวปัจจุบันที่พ่อแม่ติดเชื้อเอชไอวี มีกว่าร้อยละ 90ที่ไม่ได้เปิดเผยความจริง ให้กับลูกหรือสมาชิกในครอบครัวได้รับรู้ เป็นความจำเป็นที่สถานพยาบาลต้องทำความเข้าใจกับผู้ติดเชื้อในเรื่องนี้

ด้านศาสตราจารย์กิตติคุณ นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ กล่าวว่า การบอกความจริงสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวีต่อครอบครัว เป็นประโยชน์ที่จะช่วยลดความเครียดของผู้ติดเชื้อ ทำให้ไม่ต้องเผชิญปัญหาคนเดียว กล้ารุกขึ้นเผชิญปัญหา ลดความรู้สึกผิดความกลัว หรือวิตกกังวลว่าจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกับครอบครัว นอกจากนี้ การที่ให้สมาชิกในครอบครัวได้รับทราบความจริง จะเป็นผลดี หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่นการรักษาหรือการเข้าถึงยา เพื่อที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มีข้อมูลให้ความช่วยเหลืออย่างถูกต้อง

ก่อนหน้านี้ ศูนย์วิจัยโรคเอสด์ สภากาชาดไทย ดำเนินโครงการสำรวจความพร้อมและปัจจัยที่มีผลต่อการเปิดเผยผลเลือดเอชไอวีของผู้ติดเชื้อที่มีบุตรอายุ 8 ปีขึ้นไป ในคลินิกครอบครัวศูนย์วิจัยโรคเอดส์และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จำนวน 367 คน พบว่ามีเพียงร้อยละ 1 ที่ยอมเปิดเผยผลเลือดให้กับลูกทราบ ขณะที่ร้อยละ 15 ต้องการเปิดเผยและมีความพร้อมแล้ว แต่มีถึงร้อยละ 50 ที่ต้องการเปิดเผยผลเลือดแต่ยังไม่พร้อม และร้อยละ 32 ไม่ต้องการเปิดเผยผลเลือดให้กับลูกทราบ โดยพบว่าผู้ติดเชื้อเอชไอวี กังวลว่า การเปิดเผยผลเลือกับลูกที่มีอายุน้อยเกินไป อาจทำให้เด็กไม่เข้าใจเรื่องเชื้อเอชไอวี และไม่สามารถเก็บความลับได้ ลูกอาจจะกลัวติดเชื้อจากพ่อแม่ และมองว่าพ่อแม่เป็นคนไม่ดี


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

-
ข่าวที่เกี่ยวข้อง