ซ้อมใหญ่ ขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค
ทหาร และเจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากรร่วมกันตรวจสอบสภาพ และประดับตกแต่งเรือพระที่นั่งให้มีความสมบูรณ์สวยงามเป็นครั้งสุดท้าย ให้พร้อมสำหรับการซ้อมใหญ่งานพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคที่เลื่อนมาจัดในปีนี้ เนื่องจากเกิดมหาอุทกภัยเมื่อปลายปีที่แล้ว
นี่คือพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเต็มรูปแบบ หลังจากว่างเว้นมา 5 ปี นับจากกระบวนเรือพระราชพิธีพยุหยาตราทางชลมารค ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา เมื่อปี 2550
ครั้งนี้ใช้เรือพระราชพิธี 52 ลำ และฝีพาย 2,200 นาย รูปกระบวนเรือจัดเป็น 5 ริ้ว ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เรือรูปสัตว์ 8 ลำ เรือดั้ง 22 ลำ เรืออื่นๆ 18 ลำ
นอกจากความสวยสดงดงามของขบวนเรือพระที่นั่งที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแล้ว เสน่ห์สำคัญอีกอย่างหนึ่งการเห่เรือ ที่มีจุดประสงค์เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดของฝีพาย และเพื่อให้จังหวะฝีพายให้พายอย่างพร้อมเพรียงกัน สังเกตพนักงานเห่เรือจะนั่งอยูบริเวณหน้าบุษบก เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ที่เป็นเรืออัญเชิญผ้าไตร ส่วนท่าทางในการพาย เรือพระที่นั่งใช้ท่านกบิน ส่วนเรืออื่นๆ ใช้ท่าพลราบ
8 เดือน เต็มๆ ที่กองทัพเรือจัดการฝึกซ้อมอย่างหนักทั้งบนบกและในน้ำ โดยเมื่อวานนี้ก็มีการประชุมนายเรือ นายท้าย เพื่อประมวลปัญหา อุปสรรคต่างๆ ทั้งกระแสลม กระแสน้ำ สภาพอากาศ และร่วมกันแก้ไขจุดบกพร่อง เพื่อให้การจัดริ้วขบวนเรือออกมาสมบูรณ์มากที่สุด
แสดงถึงความตั้งใจของกำลังพลกองทัพเรือ กว่าจะมาถึงวันนี้ จัดให้มีการซ้อมย่อยมาแล้ว 8 ครั้ง วันนี้เชิญชวนร่วมชมความสวยงามของการซ้อมใหญ่เสมือนจริงครั้งแรก ซึ่งจะเริ่มขึ้นเวลาประมาณ 15.00 น. ใช้เส้นทางตั้งแต่สะพานพระราม 8 (ท่าวาสุกรี) ถึงวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
แต่ถ้าพลาดวันนี้ยังมีการซ้อมใหญ่อีกครั้งในวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน ส่วนงานพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน กำหนดให้มีขึ้นในศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน ขอเชิญชวนหน่วยงานราชการ ร้านค้า และประชาชนที่อยู่บริเวณขบวนเรือผ่านทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งโต๊ะหมู่บูชา เครื่องราชสักการะพร้อมประดับธงพระปรมาภิทัยย่อ ภปร. และธงชาติไทย ตามอาคารบ้านเรือนโดยพร้อมเพรียงกัน