"ปืนสวัสดิการ" เปิดช่องว่างเกิดการทุจริตหรือไม่

3 พ.ย. 55
14:01
2,668
Logo Thai PBS
"ปืนสวัสดิการ" เปิดช่องว่างเกิดการทุจริตหรือไม่

ปัญาหาปืนโครงการสวัสดิการที่มีผู้ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า อาจทำให้เกิดช่องว่างในการทุจริต เพราะราคาถูกกว่าท้องตลาดถึง 2 เท่า และอาจทำให้เกิดการซื้อขายปืนต่อกันเป็นทอดๆ ล่าสุดกรมการปกครองเริ่มจัดระบบเก็บข้อมูลผู้ครอบครองอาวุธปืน ผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์ โดยนำร่องใน 5 จังหวัดภาคกลาง แต่มีอดีตข้าราชการออกมาเปิดข้อมูลว่า ปืนสวัสดิการที่ขายอยู่นั้น มีราคาสูงเกินจริง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กรมการปกครอง เริ่มระบบจัดเก็บข้อมูลผู้ครองครองอาวุธปืน ผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์ ในจังหวัดภาคกลาง 5 จังหวัด ในการนำร่องตรวจสอบประวัติการครอบครองอาวุธปืน แต่ทั้งนี้ มีอดีตข้าราชการออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า ปืนสวัสดิการที่ขายอยู่นั้น มีราคาสูงเกินจริง โดยตั้งข้อสังเกตว่า ช่วงต่างของราคา อาจก่อให้เกิดการทุจริตของเจ้าหน้าที่

นายสันติ คณานุรักษ์ อดีตนายอำเภอเมืองหนองบัวลำภู ระบุว่า การสั่งซื้อของเขาผ่านบริษัทที่เป็นตัวแทนจริงกับโรงงานที่ผลิตอาวุธจริงโดยตรง ขนส่งทางเครื่องบิน เสียภาษีศุลกากรถูกต้อง และสามารถผ่อนส่งได้ เหมือนเช่นปืนสวัสดิการ ซึ่งความต่างของราคาที่เขาพบมีช่วงตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง เกือบ 40,000 บาท

ไทยพีบีเอส พยายามตรวจสอบข้อเท็จจริง เริ่มจากการสอบถามต้นสังกัด ของปืนสวัสดิการ กรมการปกครอง ที่สำนักการสอบสวนและนิติการ หรือสน.สก. ดูแล ได้รับคำตอบยืนยันว่า การตั้งราคาปืนสวัสดิการกรมการปกครอง เกิดขึ้นจากร้านค้าที่ได้รับอนุญาติให้จำหน่ายปืนสวัสดิการตามขั้นตอน จะแจ้งราคามาที่สำนัก โดยร้านค้าจะรวมค่าภาษีปืน ค่าด่านศุลกากร ค่าขนส่ง ค่าการตลาดของร้าน จากนั้นมีกรรมการหลายฝ่ายพิจารณา ซึ่งเป็นไปไม่ได้ว่าจะมีราคาแพงเกินควร

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากผู้จัดจำหน่ายอาวุธปืน ที่ระบุว่า แม้ราคาโรงงานต่างประเทศจะตั้งราคาปืนไว้ไม่แพงมาก เช่น รุ่น แต่เมื่อนำเข้าประเทศไทย ตัวแทนจำหน่ายจะต้องบวกค่าขนส่ง ค่าภาษีร้อยละ 30 ค่าด่านศุลกากร ค่าเบ็ดเตล็ด รวมถึงกำไร ทั้งนี้ให้ความเห็นว่า ส่วนที่ปืนสวัสดิการบางกระบอก แพงถึงเกือบ 40,000 บาท ไม่น่าเป็นไปได้

 

<"">
<"">

ส่วนปัญหาปืนสวัสดิการ ที่มีหลายฝ่ายกังวลว่าจะก่อให้เกิดช่องว่างการทุจริต ทั้งการรู้เห็นกับร้านปืน เช่น การให้โควตาจำหน่ายปืนสวัสดิการกับทางร้าน หรือการควบคุมผู้ได้รับอนุญาติในการสั่งซื้อ

ไทยพีบีเอสได้รับการชี้แจงว่า โครงการปืนสวัสดิการของกรมการปกครอง เริ่มขึ้นปี 2552 สามารถสั่งปืนในโครงการได้จำนวน 285,000 กระบอก แต่บางรอบการสั่งซื้อ โรงงานอาจไม่สามารถผลิตตามใบสั่ง ซึ่งอาจมีการยกเลิก และเมื่อกำหนดสิ้นสุดโครงการปี 2557 ร้านค่าสวัสดิการใดยังไม่มีการสั่งซื้อตามโควตาที่ได้รับ ก็ไม่สามารถสั่งย้อนหลังได้ ส่วนปัญหาการสวมสิทธิ์ปืนสวัสดิการ สน.สก.ยืนยันว่ามีระเบียบชัดเจน

โครงการปืนสวัสดิการ มีทั้งผู้สนับสนุนและผู้คัดค้าน ซึ่งการสนันสนุนเพื่อต้องการให้ข้าราชการที่มีรายได้น้อย เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง หรือเพื่อใข้ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ในราคาที่ไม่แพงเกินไป โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามโอนภายใน 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกใบอนุญาต เว้นแต่เป็นมรดกตกทอด ขณะที่ ผู้ที่คัดค้าน มองว่า ปืนสวัสดิการเพิ่มช่องทางการร่วมกันทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ ในการกำหนดราคา และเกิดช่องว่างการสวมสิทธิ์เจ้าหน้าที่หรือพนักงานรัฐ เพื่อซื้ออาวุธปืน และอาจสามารถนำไปก่อให้เกิดอาชญากรรม รวมถึงก่อให้เกิดปืนเถื่อนได้ในที่สุด

/////


ข่าวที่เกี่ยวข้อง