ไทยลงนาม
ภายหลังการลงนามความร่วมมือบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการซื้อขายข้าวหรือเอ็มโอยูระหว่างนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายเฉิน เตอ หมิง รัฐมนตรีการค้าของจีน
นายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะโฆษกข้าวประจำกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ความตกลงนี้ไม่ได้กำหนดทั้งปริมาณ และช่วงเวลาเพื่อความสบายใจของทั้ง 2 ประเทศ
นอกจากนี้ยังมีการลงนามสัญญาซื้อขายข้าวระหว่างภาคเอกชนของไทย 4 ราย กับรัฐวิสาหกิจและเอกชนของจีน 6 ราย จำนวน 8 สัญญา
โดยเป็นสัญญานำเข้าข้าวจากไทย 3 ชนิด รวม 300,000 ตัน ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว และข้าวเหนียว ราคาเฉลี่ย 800 เหรียญสหรัฐต่อตัน มูลค่ารวม 240 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7,200 ล้านบาท
นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้รัฐบาลต้องการสร้างภาพว่าสามารถขายข้าวได้ ส่วนเอ็มโอยูขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐระหว่างไทยกับจีน เป็นกรอบที่กว้างเกินไป เพราะไม่ระบุปริมาณชนิดข้าว วันส่งมอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่จับต้องได้ยาก โดยเฉพาะเอ็มโอยูเดิมที่ระบุว่า จีนจะซื้อข้าวจากไทยสูงถึงปีละ 5 ล้านตัน เนื่องจากที่ผ่านมาจีนซื้อข้าวจากไทยไม่เกินปีละ 1 ล้านตัน และจากราคาข้าวที่สูงขึ้นของไทย ทำให้จีนลดการนำเข้าลงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงปีละไม่เกิน 3 แสนตัน
สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยรายงานตัวเลขการส่งออกข้าวไปจีนตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคม ไทยส่งข้าวไปจีนเพียง 90,000 มูลค่า 2,600ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่ส่งออกได้กว่า 200,000 ตัน หรือลดลงร้อยละ 58 เนื่องจากราคาข้าวไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่งตันละประมาณ 100 เหรียญสหรัฐ ทำให้จีนหันไปซื้อข้าวจากเวียดนาม รวมทั้งปากีสถาน และพม่าเพิ่มขึ้น