ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯ ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ " คอร์รัปชั่น จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจและสังคมไทย " ว่า ขณะนี้ มีความกังวลอย่างมากต่อการใช้นโยบายประชานิยมของรัฐบาล อย่างโครงการรับจำนำข้าว เพราะมีปัญหาการสร้างหนี้ และอาจเข้าข่ายในการฉ้อราษฎร์บังหลวง เพราะผลประโยชน์ ส่วนใหญ่ตกกับคนใกล้ชิดนักการเมืองและคาดการณ์ว่าโครงการรับจำนำข้าวขาดทุนในปีแรก อย่างต่ำประมาณ 140,000 ล้านบาท และจนถึงเดือน ก.ย.2555 ไทยมีหนี้สาธารณะ 4.9 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนก่อหนี้ในโครงการลงทุนบริหารจัดการน้ำ การก่อสร้างโครงการพื้นฐาน จากการประมาณการของกระทรวงการคลัง คาดว่าการลงทุนตั้งแต่ปี 2555-2562 จะก่อหนี้รวมกว่า 8.6 ล้านล้านบาท หากรวมงบประมาณ การขาดทุนจากการขายข้าวด้วย คาดว่าจะมีหนี้สาธารณะจนถึงเดือนกันยายน 2562 เป็นมูลค่า 10.246 ล้านล้านบาท โดยการคำนวณนี้ ไม่รวมค่าเสื่อมจากการเก็บข้าวไว้ในโกดังของรัฐ และการระบายข้าวผ่านผู้ส่งออกข้าวบางราย ในราคาต่ำกว่าตลาด
ที่ผ่านมาเคยเปิดเผยข้อมูลโครงการรับจำนำในแง่ผลเสียต่อฐานะทางการเงินของประเทศไปแล้วจึงเรียกร้องให้ภาคีเครือข่ายต่อตา้นคอร์รัปชั่น ออกมารณรงค์เรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยควรนำข้อมูลเรื่องการประมูลขายข้าวของ กระทรวงพาณิชย์ให้กับผู้ส่งออกข้าว หรือ เอกชนรายอื่น มาเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบ
ส่วนปัญหาการคอร์รัปชั่นในสังคมไทยเกิดขึ้นมานานและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีการเริ่มใช้เงินซื้อเสียง และซื้อตัว ส.ส. ทำให้นักการเมืองต้องใช้เงินมากขึ้น เพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง โดยแสวงหาผลประโยชน์ทั้งจากงบประมาณก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคต่าง ๆ โดยขณะนี้มีเรียกเงินถึงร้อยละ 20 ของวงเงินก่อสร้างมีผลเสียหายต่องบประมาณของประเทศจากการใช้เงินลงทุนสูงขึ้น และประชาชนต้องจ่ายค่าบริการแพงขึ้น