ปฏิบัติการปิดปลายทางเส้นทางขนย้ายชาวโรฮิงญา

อาชญากรรม
7 พ.ค. 58
14:48
126
Logo Thai PBS
ปฏิบัติการปิดปลายทางเส้นทางขนย้ายชาวโรฮิงญา

ภายหลังเจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการ "ปิดปลายทาง" เพื่อคุมเข้มเส้นทางขนย้ายชาวโรฮิงญาผ่านทางทะเลและพื้นที่ติดชายแดน ทำให้วันนี้ (7 พ.ค.2558) พบหลุมฝังศพสภาพใหม่อีก 30 หลุมในสุสานร้าง จ.สงขลา ขณะที่ชาวโรฮิงญาจำนวนมากถูกทิ้งไว้ในป่าระหว่างที่นายหน้าอพยบหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ โดยบางคนอยู่ในสภาพที่เจ็บปวดและอดยาก

ภาพของชาวโรฮิงญาที่อยู่ในสภาพอิดโรยและกินใบไม้ประทังชีวิต ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง โดยอ้างว่าชายในภาพเป็นชาวโรฮิงญาที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือบนเทือกเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ขณะที่วันนี้เจ้าหน้าที่พบชาวโรฮิงญาที่พลัดหลงในป่าจำนวน 17 คน โดยมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านและขณะนี้อยู่ในความดูแลของอำเภอสะเดา ขณะเดียวกันพบหลุมฝังศพอีกกว่า 30 หลุมที่สุสานร้างใน ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยชาวบ้านยืนยันว่าสถานที่ดังกล่าวเคยใช้ฝังศพแค่ 6 ศพ นอกจากนี้ยังพบแคมป์ที่พักแห่งใหม่ที่หมู่ 10 บ้านคลองต่อ ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา

ขณะที่ตำรวจได้ออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 10 หมาย จากเดิมที่มีการออกหมายจับแล้ว 8 หมาย โดย 2 ใน 18 คน เป็นนายตำรวจที่อยู่ใน จ.สงขลา ซึ่งนายประสิทธิ์ เหล็มเหล๊ะ อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลปาดังเบซาร์ หนึ่งในผู้ต้องหาได้มอบตัวแล้ว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยอมรับว่าผู้ที่ออกหมายจับขณะนี้เป็นแค่กลุ่มผู้สนับสนุน แต่ยังไม่ครอบคลุมกลุ่มผู้บงการ
   
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้ากดดันพื้นที่เกาะขมิ้น เกาะปรัสมานา และเกาะปูยู ต.ปูยู อ.เมืองสตูล ซึ่งเป็น 3 เกาะหลักในการให้สัมปทานรังนก หลังมีรายงานว่าบริเวณนี้อาจถูกใช้เป็นสถานที่ขนย้ายชาวโรฮิงญา ก่อนผลักดันไปยังประเทศเพื่อนบ้านผ่าน อ.ควนโดน แต่ผู้ก่อเหตุอาจไหวตัวจึงไม่พบร่องรอย ขณะที่ จ.ระนอง ตำรวจและทหารเข้าตรวจสอบพื้นที่ริมคลองที่เป็นเส้นกันเขตแดนไทย- เมียนมา ที่หมู่ 5 ต.ปากจั่น อ.กระบุรี เพื่อป้องปรามการขนย้ายแรงงานผิดกฎหมายและป้องกันกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ ตามแผนยุทธการปิดปลายทาง ที่จัดวางกำลังคุมเข้มเส้นทางทะเลและพื้นที่เกาะที่อาจถูกเปลี่ยนมาใช้เป็นสถานที่พักพิงชาวโรฮิงญาหลังถูกกดดันอย่างหนัก พร้อมตั้งจุดตรวจเพิ่มเติมในพื้นที่บริเวณชายแดนไทยมาเลเซียเพื่อปิดกันพื้นที่ไม่ให้มีการสร้างแคมป์ที่พักอีกต่อไป

ทั้งนี้ ปัญหาการค้ามนุษย์ในพื้นที่ชายแดนที่พบมากขึ้น ทำให้ชาวบ้านใน อ.สะเดา ร่วมเดินรณรงค์ให้คนในพื้นที่ร่วมต่อต้านการค้ามนุษย์และขอให้มีการช่วยแจ้งเบาะแสหากพบเห็นการค้ามนุษย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้อง
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง