ภาคเอกชนหวั่นเหตุชุมนุมบานปลาย อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
แม้การชุมนุมถือจะถือเป็นสิทธิ์ที่กฎหมายเปิดช่องให้ประชาชนร่วมชุมนุมได้ แต่นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ไม่อยากจะให้มีการกระทบกระทั่งกันขึ้น และเกิดเหตุการณ์บานปลาย ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการต่างชาติบางราย แสดงความกังวล และสอบถามถึงสถานการณ์เข้ามาบ้างแล้ว
นายศุภรัตน์ระบุว่าการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลควรผ่านทางรัฐสภา ซึ่งขณะนี้กำลังจะมีการเปิดอภิปรายรัฐบาลไว้วางใจรัฐบาลอยู่แล้ว และยังคงเชื่อว่ารัฐบาลจะควบคุมสถานการณ์ได้ อย่างที่สัมภาษณ์ระหว่างแถลงข่าวกลุ่มสภาอุตสาหกรรมเมื่อวานนี้
ขณะที่นายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยวหรือ แอตต้า กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานแจ้งยกเลิกการจองห้องพัก หรือ ตัวแทนบริษัทเอกชนในต่างประเทศสอบถามสถานการณ์เข้ามาแต่ห่วงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสุ่มเสี่ยงนำไปสู่ความรุนแรง เพราะผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่างฝ่ายต่างไม่ปฏิบัติตามแนวทางที่เคยให้ข่าวผ่านสื่อมวลชน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ภาพลักษณ์ประเทศรวมทั้งการท่องเที่ยว
นายศิษฎิวัชร สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยวกล่าวอีกว่า ได้กำชับให้บริษัทท่องเที่ยว ให้เร่งประชาสัมพันธ์และปรับแผนการท่องเที่ยว ให้หลีกเลี่ยงบริเวณพื้นที่การชุมนุมอยู่แล้ว แต่การเหตุการณ์วันนี้ ถือว่าผิดความคาดหมายจากที่เอกชนประเมินไว้ จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ขณะที่ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ห่วงว่าหากมีการขยายเวลาบังคับใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงจะกระทบต่อความเชื่อมั่นในสายตานักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติ