จนท.ระดมกำลังทำลายยางพารา-ปาล์มน้ำมัน ที่ถูกบุกรุกในป่าในช่อง จ.ภูเก็ต

25 พ.ย. 55
15:08
79
Logo Thai PBS
จนท.ระดมกำลังทำลายยางพารา-ปาล์มน้ำมัน ที่ถูกบุกรุกในป่าในช่อง จ.ภูเก็ต

เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าจังหวัดกระบี่ พังงา และจังหวัดภูเก็ต ถูกระดมเข้าทำลายผลอาสิน โดยเฉพาะต้นยางพารา และต้นปาล์มน้ำมัน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่อง สายสาม พื้นที่ ต.ทับปริก ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ หลังมีการประกาศใช้ มาตรา 25 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ด้วยการอนุโลมให้ผู้อ้างตัวเป็นเจ้าของ นำเอกสารการครอบครองสิทธิ์ไปแสดง ภายใน 60 วัน ขณะนี้เวลาล่วงเลย มานานกว่า 1 ปี เจ้าหน้าที่เพิ่งจะดำเนินการรื้อถอน

นับตั้งแต่ ปี 2550 เป็นต้นมา เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่อง ที่มีสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ เขต 12 สาขากระบี่ ตั้งอยู่ ถูกนายทุน และชาวบ้านบุกรุกอย่างต่อเนื่อง สร้างความเสียหายไปแล้วหลายพันไร่ จากทั้งหมด กว่า 10,000 ไร่ โดยพบว่า มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้บางราย เป็นผู้เข้าไปจัดสรรที่ดิน และเรียกเก็บผลประโยชน์

ทีมข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่เกาะติดสถานการณ์ การบุกรุกผืนป่าในช่อง อย่างต่อเนื่อง เมื่อ 2 ปีก่อน จนกรมป่าไม้ มีคำสั่งตั้งกรรมการขึ้นสอบสวนพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ในสังกัด 3 คน แต่ไม่มีการเอาผิดทางวินัยอย่างจริงจัง อ้างว่า ไม่มีพยานที่เป็นผู้เสียหายในการถูกเรียกรับผลประโยชน์ไปยืนยัน แต่มีการประกาศใช้ มาตรา 25 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ทำลายผลอาสินนายทุน ไปกว่า 600 ไร่ การนำมาตรการเด็ดขาดขึ้นมาใช้ นับจากนั้นเป็นต้นมา ไม่พบการขยายพื้นที่บุกรุกเพิ่มในผืนป่าแห่งนี้เพิ่ม

<"">
<"">

 

"นโยบายนั้นดีมาก วันนี้ได้ทำลายไปบางส่วน และจะทำลายไปเรื่อยๆ ดีใจที่ทางราชการคืนป่าให้กับประชาชน" ร.ต.ต.ระวิ แพรกปาน ประธานชมรมอนุรักษ์ป่าไม้ จ.กระบี่

ผู้อำนวยการจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ยอมรับว่า ยังมีสวนปาล์มน้ำมัน และสวนยางพารา กว่า 100 ไร่ ที่มีการประกาศใช้มาตรา 25 แต่ยังไม่มีการรื้อถอน ทำลาย เพราะขาดงบประมาณ อย่างไรก็ตามคาดว่า จะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือน เพื่อเป็นป้องปราม และภายหลังมีนโยบายจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ชลอการรื้อถอนทั่วประเทศเป็นการชั่วคราว เพราะเกรงว่า อาจพลาดไปรังแกชาวบ้านที่อาศัยทำกินอยู่ก่อน ทำให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ต้องเพิ่มความรอบคอบในการตรวจสอบ เน้นเฉพาะสวนของนายทุนเท่านั้น

<"">
<"">

 

"จะช่วยป้องปรามไม่ให้ผู้ที่จำมาบุกรุกกล้าลงทุน เพราะลงทุนแล้ว เขาจะไม่ได้อะไรกลับไปเลย" อำนาจ สร้อยเกียว ผอ.สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่

ป่าสงวนแห่งนี้ นอกจากเป็นสัญลักณ์ของจังหวัดกระบี่ ที่มีต้นไม้ใหญ่ให้เห็นของ 2 ข้าง ยาวกว่า10 กิโลเมตร บอกให้รู้ว่ากำลังใกล้เขตตัวเมือง และยังเป็นแหล่งต้นน้ำ ของท่าปอมคลองสองน้ำ อันซีนไทยแลนด์ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่ง เพราะมีน้ำจาก 3 ป่า และน้ำจืด กับน้ำเค็มไหลลงมาบรรจบรวมกัน จึงเกิดความสวยงามทางระบบนิเวศน์ แต่เมื่อผืนถูกทำลายทำให้นำลดลง เฉลี่ยปีละ 5 เซนติเมตร หลายฝ่ายจึงเกิดความวิตกว่าความสวยงามทางธรรมชาติอาจถูกทำลาย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง