เหนือ – อีสาน ประสบภัยแล้ง น้ำลดลงเข้าขั้นวิกฤติ

สถานการณ์ ภัยแล้งในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง หลายจังหวัดทยอยประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง หลังระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติลดลงเข้าสู้ระดับวิกฤต

ชาวบ้านตำบลจอมทอง อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู นำกระสอบทรายมาทำฝายกั้นลำน้ำพอง เพื่อกักเก็บไว้ใช้ผลิตน้ำประปาให้กับชาวบ้านประมาณ 2,000 ครอบครัว หลังน้ำในลำพอง ช่วงที่เป็นจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำ แห้งขอดจนไม่สามารถสูบน้ำมาผลิตน้ำประปาได้ ส่วนเกษตรกรใน หมู่บ้านโคกเพชร ตำบลหนองตาด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ งดปลูกพืชทุกชนิด รอบบริเวณอ่างเก็บน้ำหมู่บ้าน เพราะเกรงว่าปริมาณน้ำที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 30 ปี จากภาวะฝนทิ้งช่วง จะไม่เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปาใช้อุปโภคบริโภคได้ตลอดฤดูแล้ง

ด้านนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เร่งส่งรถบรรทุกน้ำกว่า 10 คัน นำน้ำออกแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย หลังถูกประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว 27 อำเภอ

ส่วนที่ตำบลโพธิ์ ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร เกษตรกรผู้ปลูกส้มโอ ซึ่งเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัด ต้องใช้วิธีสูบน้ำผ่านท่อส่งน้ำเพื่อไปล่อเลี้ยงสวนส้ม แทนการใช้ระบบสปริงเกอร์ เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งจัด ทำให้ส้มโอเริ่มขาดน้ำ และเหี่ยวเฉา ขณะที่จังหวัดพิษณุโลก ที่แหล่งน้ำธรรมชาติ และบ่อน้ำแห้งขอด

ขณะที่เกษตรกรส่วนใหญ่ยังคงทำนาปรัง ทำให้นายดำรงค์ ทับสุข เกษตรอำเภอวังทอง ต้องทำเรื่องร้องขอฝนหลวง ไปยังสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร เพื่อช่วยเหลือเกษตรรวมกว่า 5 ตำบล ที่กำลังขาดแคลนน้ำเป็นบริเวณกว้าง