จุดเริ่มต้นของการตามหาบ้านเลขที่ 268/20 ถ.ป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านที่พบข้อมูลว่า มีการสวมบัตรประชาชนของนายถาวร สมจิตร จากเครือข่ายค้ายาเสพติด เริ่มขึ้นที่ไปรษณีย์คำเที่ยง แห่งนี้ แต่เมื่อได้รับแจ้งว่า เป็นเพียงที่รับฝากเท่านั้น ทีมข่าวจึงเดินทางไปที่ไปรษณีย์พระสิงห์ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
แม้จะแจ้งบ้านเลขที่กับพนักงานไปรษณีย์ได้รับคำตอบไม่ชัดเจน แต่ให้ข้อมูลว่า น่าจะอยู่บริเวณตลาดสดคำท่อ ถนนป่าตัน เมื่อไปถึงพิกัดตามคำแนะนำ เดินหาบ้านเลขที่ 268/20 แต่ไม่พบมีเพียงบ้านเลขที่ใกล้เคียงเช่นบ้านเลขที่ 262-267 จนได้รับคำแนะนำจากชาวบ้านคนนี้ให้สอบถามประธานชุมชน
ประธานชุมชนแสดงความไม่มั่นใจตอนแรกกับบ้านเลขที่ที่ทีมข่าวแจ้ง แต่เมื่อแจ้งชื่อเจ้าบ้านคือนายอานนท์ จันทร์เทพา ได้รับคำตอบทันทีว่า บุคคลที่ถูกถามถึงมีภรรยาขายของอยู่ในตลาดสด ทีมงานได้กลับมาที่ตลาดคำท่ออีกครั้ง และ ตามหาภรรยาของเจ้าบ้าน ตามคำแนะนำของประธานชุมชน
ทีมข่าวพบหญิงสูงอายุคนหนึ่งตามคำแนะนำเมื่อเข้าไปสอบถาม และ แจ้งจุดประสงค์ในการติดตามเกี่ยวกับนายถาวร ที่มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านได้รับคำตอบว่านายถาวร อยู่ในทะเบียนบ้านจริง แต่ไม่ได้ติดต่อมานานเกือบ 30 ปี
เมื่อได้รับข้อมูลเบื้องต้นเพื่อความแน่ใจในการตรวจสอบ ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 268/20 ที่ระบุในเอกสารพบนายอานนท์ เจ้าบ้านที่ตามหานอกจากนี้ยังพบคำตอบที่ทำให้น่าเชื่อได้ว่านายถาวร ถูกสวมบัตรประชาชนชนจริง
ไทยพีบีเอสตรวจสอบข้อมูลสำหรับปัญหาการสวมบัตรประชาชนที่พบในปัจจุบันมี 2 รูปแบบ คือ 1 การสวมตัวบุคคลเพื่อทำบัตรประชาชน ซึ่งจะพบในบัตรประชาชนที่ขึ้นต้นด้วยเลข 3 คือบัตรประชาชนคนไทยที่เกิดก่อนปี 2527 และบัตรประชาชนที่ขึ้นต้นด้วยเลข 1 คือปีเกิดหลังปี 2527 ที่ไม่มีความเคลื่อนไหว , 2.กรณีการเพิ่มชื่อเข้าในทะเบียนราษฎร์ กรณีนี้เป็นการเพิ่มชื่อในบัตรประชาชนเลข 0 คือบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน หมวดเลข 5 บัตรประชาชนที่บุพการีลืมแจ้งเกิด หมวดเลข 6 และ 8 บัตรที่ออกให้ชาวเขาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
ทั้งหมดเป็นเพียง 1 กรณีเท่านั้นที่พบมีการสวมบัตรประชาชน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ( 24 ม.ค.) เอกสารกว่า 100,000 แผ่น ที่เป็นเอกสารประกอบคำร้องการออกบัตรประชาชนให้กับคนต่างด้าว 20,000 คน จะถูกนำออกมาตรวจสอบ และ หากพบสิ่งผิดปกติ อาจเป็นสิ่งยืนยัน สมมติฐานที่เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่า มีเจ้าพนักงานปกครองบางคนร่วมทำผิดให้สัญชาติไทยกับกลุ่มชาวเขาที่แฝงตัวมาเพื่อแลกกับเงินจำนวนหนึ่งแต่ส่งผลถึงความมั่นคง
จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นพื้นที่หลักในการตรวจสอบ และพบปัญหานี้มาก เนื่องจากมีชาวเขาบุคคลพื้นที่สูงจำนวนมากที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานตามแนวชายแดน หลังจากที่ "ไทยพีบีเอส" นำเสนอปัญหานี้มาก่อนหน้านี้ในวันพรุ่งนี้ อธิบดีดีเอสไอ จะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังพบมีการสวมบัตรประชาชนจำนวนมาก