ผบ.ตร.กำหนด 4 แนวทางแก้ปัญหา โครงการสร้างโรงพักทดแทน
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงกรณีการสร้างสถานีตำรวจทดแทนทั้ง 396 แห่งล่าช้า ว่าได้วางแนวทางแก้ปัญหาไว้ 4 แนวทาง ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ คือ การรวบรวมหลักฐานสัญญาตั้งแต่การเช่าช่วงของคู่สัญญา ปริมาณงานที่ไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนดเวลา โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการด้านกฎหมายได้หลังวันที่ 14 มีนาคม ที่จะสิ้นสุดสัญญา สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่มีการต่อสัญญากับบริษัทพีซีซี ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด อีกแล้ว
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบปริมาณงานที่ก่อสร้าง ทั้งที่เสร็จและไม่เสร็จในขั้นตอนต่างๆ ควบคู่การจัดซื้อจัดจ้าง หาผู้รับเหมารายใหม่ รวมไปถึงเรื่องของการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย
ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ วันนี้ (11 ก.พ.) ได้เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสอบปากคำเจ้าหน้าที่บริษัทพีซีซีฯ และผู้รับเหมารายย่อย รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงิน หาความเชื่อมโยงบุคคลที่คาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด ทั้งข้อหาฉ้อโกง และฮั้วประมูล
ส่วนการเรียกอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติชี้แจง วันนี้ (11 ก.พ.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ มอบหมายให้ พล.ต.ต.ภูวดล วุฑฒกนก รองผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีและการสื่อสาร ซึ่งในขณะนั้นได้ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองพลาธิการและสรรพาวุธ เข้าชี้แจงแทน
โดย พล.ต.อ.พัชรวาทเป็นผู้เสนอให้มีการประมูลราคาการก่อสร้างแบบรายภาค และในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ พนักงานสอบสวนจะเชิญ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ชี้แจง ประเด็นการรวมสัญญา โดยบริษัทเดียวทั่วประเทศ
สำหรับโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง ทั่วประเทศ งบประมาณ 5,848 ล้านบาท เป็นงบประมาณผูกพันตั้งแต่ปี 2552-2554 โดยบริษัทพีซีซีฯ ได้รับสัมปทาน ซึ่งในสมัย พล.ต.อ.พัชรวาท มีการทำสัญญาแบบแยกรายภาค 9 ภาคทั่วประเทศ
แต่ในสมัย พล.ต.อ.ปทีป มีการเปลี่ยนแปลงสัญญา การก่อสร้างให้รวมสัญญา โดยมีการยื่นให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น พิจารณาอนุมัติ