เปิดวิสัยทัศน์
วันนี้ (13 ก.พ.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเวทีเสวนาสาธารณะประชันวิสัยทัศน์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 2556 โดยผู้สมัครผู้ว่ากทม.ได้แสดงวิสัยทัศน์ที่น่าสนใจ ดังนี้
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 9 จากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สามารถทำงานประสานกับรัฐบาลอย่างไร้รอยต่อ เนื่องจากที่ผ่านมาการทำงานระหว่าง กทม.และรัฐบาลมีช่องว่างในการบริหารงานมาก และพร้อมจะเดินหน้าแก้ไขกฎหมายเพื่อปรับโครงสร้างอำนาจของผู้ว่าฯ กทม.ให้สามารถบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมเพิ่มช่องทางในการตรวจสอบการทำงานของผู้ว่าฯและสภากทม. รวม ถึงการแก้ไขปัญหาผู้มีอิทธิพลในการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้มีรายได้น้อย และจัดโครงการคมนาคมที่เชื่อมต่อจากพื้นที่ชั้นนอกเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน
ด้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข11 ในนามผู้สมัครอิสระ กล่าวว่า จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการจัดระเบียบทางเท้า ในเขตพื้นที่ชั้นใน เช่น พื้นที่ย่านเยาวราช จะจัด ระเบียบภายใน 1 เดือน และพื้นที่กรุงเทพชั้นนอก เช่น หนองจอก มีนบุรี จะใช้เวลา 6 เดือน รวมถึงการจัดตลาดลอยฟ้าบริเวณคลองผดุงกรุงเกษม เพื่อแก้ปัญหาการขายของบนทางเท้า และมีโครงการรถเมล์ปรับอากาศฟรี รวมถึงโครงการจัดตั้งโรงทานฟรีโดยทั่วกทม.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 16 จากพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พร้อมที่จะรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนา-การอนุรักษ์ระหว่างพื้นที่เศรษฐกิจและ พื้นที่อยู่อาศัย รวมถึงมีนโยบายการแก้ไขปัญหาปากท้องด้วยทั้งการเรียนฟรี และการจัดหาอาหารมือเช้าฟรีให้นักเรียน และมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาปากท้อง
ด้าน นายสหฤท สยามวาลา ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 17 ในนามผู้สมัครอิสระ กล่าวว่า มีนโยบายในการสร้างจุดเด่นพื้นที่ทั้ง 50 เขตของกทมและไม่สนับสนุนการรื้อสิ่งปลูกสร้างเก่า และเตรียมที่จะสร้างความเชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชนในลักษณะใยแมงมุมด้วยเชื่อม โยงระบบรถโดยสารประจำทางกับรถสถานีรถไฟฟ้า รวมถึงการแก้ไขปัญหาเด็กยากจนหรือการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้มีรายได้น้อย จากผู้มีอิทธิพล ซึ่งต้องแก้จากต้นเหตุทั้งจากกระบวนการค้ามนุษย์ รวมถึงการร่วมมือกับตำรวจและเจ้าหน้าที่เทศกิจ
ด้าน นายวรัญชัย โชคชนะ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 2 ในนามผู้สมัครอิสระ ระบุว่า จะแก้ไขปัญหาการค้าขายบริเวณทางเท้าด้วยการจัดกำหนดระยะเวลาและจัดระเบียบ แผงค้ารวมถึงการขจัดการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้มืออิทธิพล และพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาการจราจร การก่อสร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำพื้นที่คลอง รวมถึงการเปิดเวทีประชาธิปไตยบริเวณสนามหลวง และการใช้ประโยชน์จากเสาต่อมอโครงการโฮปเวลล์
ขณะที่นายโฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 10 ในผู้สมัครอิสระ เปิดเผยว่า สามารถบริหารงานด้วยการประสาน 10 ทิศกับทุกฝ่ายและพัฒนาความเจริญให้ครอบคลุม 50 เขตของกทม. โดยทำให้เป็นมหานคร 24 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถติดต่อราชการได้ในทุกเวลา และสามารถประกอบอาชีพโดยไม่ต้องเดินทางข้ามเขต ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาการจราจรได้ รวมถึงการเสนอแผนในการเชื่อมโยงเครือข่ายการคมนาคม จัดทำชัตเติ้ลบัสจากชุมชนไปยังระบบขนส่งมวลชนและหาพื้นที่จอดรถเพิ่มเติมให้ กับผู้ใข้รถทั่วไป นอกจากนี้ได้เตรียมสร้างพื้นที่สาธารณะ เพื่อจัดตั้งศูนย์พัฒนาอัจฉริยะ ให้ครอบคลุมทุกด้านทั้งกีฬา ศิลปะ และดนตรี เพื่อให้นักเรียนใช้เวลาว่าง ช่วงหลังเลิกเรียนให้เกิดประโยชน์