เวทีเอ็นฟอรัม โซเชียลมีเดียกับการเลือกตั้ง ซึ่งมีผู้สมัครเพียง 2 คนคือ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุหฤท สยามวาลา ผู้สมัครอิสระ มาร่วมเวที
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บอกว่า แม้จะมีทีมงานช่วยในเรื่องการโพสข้อความ แต่ก็ไม่ละเลยนำความคิดเห็นประชาชนที่โพสผ่านเฟสบุค มารวบรวมเป็นนโยบาย และในอนาคตก็จะเปิดแอพลิเคชั่น iBangkok เป็นอีกช่องทางสื่อสาร รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน
ด้านนายสุหฤท ระบุว่า เพราะมีทีมงานที่น้อยกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ จึงใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางสื่อสารหลัก โดยเชื่อว่า จะเข้าถึงประชาชนได้ง่ายและช่วยสื่อสารการรับรู้นโยบายรวดเร็วขึ้น
ขณะที่นางสกุลศรี ศรีสารคามอาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ นักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์ระบุว่า ตั้งแต่การเลือกระดับประเทศครั้งที่ผ่านมา ผู้สมัครเริ่มใช้ตั้งโซเชียลมีเดียมากขึ้น แต่สำหรับในต่างประเทศ นอกจากจะใช้โซเชียลมีเดียเพื่อหาเสียงแล้ว ยังมีการเก็บข้อมูล ความคิดจากคนในโซเชียลมีเดีย จนสร้างเป็นกลุยทธ์ได้ตรงกับความต้องการของคนส่วนใหญ่ ส่วนประเทศไทยยังถือว่าการสื่อสารระหว่างประชาชนกับผู้สมัครยังทำได้น้อย
ด้านสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนหน้านี้ได้ประกาศไว้ว่า ผู้สมัครสามารถหาเสียงผ่านทางเว็บไซต์ได้ แต่ต้องคิดค่าใช้จ่ายในส่วนของการจัดทำเว็บไซต์หรือการว่าจ้างทีมงานจัดทำสื่อออนไลน์ ไว้ในบัญชีค่าใช้จ่ายของผู้สมัครด้วย ส่วนข้อความที่โพสต์ต้องใช้ถ้อยคำสุภาพ ไม่ใส่ร้าย หรือทำให้บุคคลเข้าใจผิดในตัวผู้สมัครคนอื่น จนส่งผลต่อคะแนนนิยม เพราะอาจมีความผิดตามมาตรา57 และได้รับโทษอาญาตาม มาตรา118 ของพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545