เกิดคดีปล้นเพชรในเบลเยี่ยมครั้งใหญ่มูลค่าถึง 1,500 ล้านบาท
เกิดคดีปล้นเพชรในประเทศเบลเยี่ยม ที่ว่ากันว่าเป็นการปล้นเพชรครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่เคยเกิดขึ้น เพชรที่ถูกปล้นไปมีมูลค่าสูงถึง 1,500 ล้านบาท ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นประมาณ 20 นาฬิกาของคืนวันจันทร์ที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศเบลเยี่ยม คนร้าย 8 คนสวมเครื่องแบบคล้ายตำรวจและสวมหน้ากากปิดบังใบหน้านั่งรถตู้ 2 คันที่ถูกดัดแปลงให้มีลักษณะเหมือนรถตำรวจ ขับผ่านรั้วของสนามบิน "ซาเวนเท็ม" ที่คนร้ายแอบไปตัดไว้ก่อนหน้านี้ ขับตรงไปที่ลานจอดเครื่องบิน โดยจอดเทียบกับรถของบริษัทรักษาความปลอดภัย ที่กำลังจะนำเพชรมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท ขึ้นเครื่องของสายการบิน "เฮลเวติค" เพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อคนร้ายไปถึงก็นำอาวุธปืนออกมาขู่ นักบิน,ผู้ช่วยนักบิน และพนักงานของบริษัทรักษาความปลอดภัยไม่ให้ขัดขืน จากนั้นคนร้ายก็นำเพชรที่มีอยู่อย่างน้อย 120 ห่อไป และขับรถหนีไปตามช่องทางเดิมที่แอบเข้ามาในสนามบิน การปล้นในครั้งนี้ใช้เวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น และคนร้ายไม่ได้ยิงปืนแม้แต่นัดเดียว ขณะที่ผู้โดยสารซึ่งอยู่บนเครื่องประมาณ 20 คน ไม่มีใครรู้เลยว่ามีการปล้นเกิดขึ้นข้างล่าง
ศูนย์เพชรโลกแอนเวิร์ท หรือ "แอนเวิร์ท เวิล์ด ไดมอนด์ เซ็นเตอร์" ระบุว่านี่เป็นการปล้นเพชรครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่เคยเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมค้าเพชร เพชรที่ถูกปล้นไปเป็นเพชรที่ยังไม่ได้ผ่านการเจียระไน คดีปล้นเพชรครั้งใหญ่ที่สุด เกิดขึ้นที่เบลเยี่ยมเดือนกุมภาพันธ์ปี 2548 โดยคนร้ายบุกเข้าไปในห้องนิรภัยของศูนย์เพชรโลกแอนเวิร์ท ขโมยอัญมณีที่มีมูลค่ารวมร้อยล้านยูโรหรือประมาณ 4,000 ล้านบาท คาดว่าโจรกลุ่มนี้เป็นมืออาชีพที่มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี