นักวิชาการ เสนอยืดเวลาสะสมเงินประกันสังคม -ขยายเวลาทำงานผู้สูงอายุ
นักวิชาการด้านเเรงงานเเละความมั่นคงทางสังคม กล่าวในเวทีเสวนาความมั่นคงของเเรงงานกับการขยายอายุการทำงาน แสดงความกังวลต่อภาคการจ้างงานภายในประเทศ เนื่องจากสัดส่วนของจำนวนประชากรวัยทำงานลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับผู้สูงวัยที่มีอัตราเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อภาระทางการคลังของภาครัฐในการดูเเลสิทธิเเละสวัสดิการ รวมถึงบริการสาธารณะเเก่ผู้สูงอายุ
นักวิชาการส่วนใหญ่วิเคราะห์ว่า ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบ มาจากข้อกำหนดการเกษียณอายุของเเรงงานในระบบ โดยเฉพาะการจ้างงานของภาคเอกชนที่บางแห่ง กำหนดวัยเกษียณอายุที่ 55 ปี ซึ่งตรงกับระเบียบของกฏหมายประกันสังคมที่กำหนดให้ผู้ประกันตนที่มีอายุ 55 ปี สิ้นสุดการสะสมเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม
โดยที่ประชุมเห็นตรงกันว่า สำนักงานประกันสังคมควรขยายระยะเวลาสะสมเงินสมทบเข้ากองทุนฯ เเละขอให้ภาคเอกชนขยายอายุการทำงานของผู้สูงอายุออกไปไม่ต่ำกว่า 60 ปี และเห็นว่าการขยายระยะเวลาดังกล่าว จะส่งผลดีในหลายด้าน เช่น เกิดเเรงจูงใจให้เเรงงานหันมาทำงานในระบบมากขึ้น รวมถึงตัดปัญหารายได้ของผู้สูงอายุที่ไม่เพียงพอ ขณะเดียวกันรัฐจะมีรายได้เพิ่มจากการเก็บภาษี , ส่งผลให้สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประทศขยายตัว เเละที่สำคัญ ยังเป็นการสร้างความมั่นคงด้านรายได้ให้กับผู้สูงอายุ
ขณะที่ มูลนิธิสถาบันวิจัย เเละพัฒนาผู้สูงอายุไทย รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทยปี 2552 คาดการณ์ว่า ปี 2568 หรืออีก 12 ปีข้างหน้า ประชากรไทยจะมีผู้สูงอายุราว 14.4 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์