ส.อ.ท. สอบทุจริตค่าฝึกอบรมยกระดับฝีมือแรงงาน จ.ลพบุรี เงินหาย 6 ล้านบาท

เศรษฐกิจ
22 ก.พ. 56
13:35
183
Logo Thai PBS
ส.อ.ท. สอบทุจริตค่าฝึกอบรมยกระดับฝีมือแรงงาน จ.ลพบุรี เงินหาย 6 ล้านบาท

โครงการยกระดับฝีมือแรงงานลูกจ้างจากน้ำท่วม เมื่อ ปี 2554 เป็นโครงการที่ได้งบประมาณจากกระทรวงแรงงานมาอบรมและฝึกฝีมือลูกจ้าง เพื่อบรรเทาผลกระทบ แต่ไทยพีบีเอสได้ข้อมูลจากสหกรณ์โคนม จังหวัดลพบุรี ว่าหลังจากอบรมเจ้าหน้าที่ไปแล้ว แต่ได้รับเงินค่าฝึกอบรมไม่ครบตามจำนวน ซึ่งสภาอุตสากรรมแห่งประเทศไทย กำลังตรวจสอบว่า เข้าข่ายทุจริตค่าจ้างฝึกอบรมหรือไม่ เพราะมีเงินหายไปจากโครงการ เกือบ 6,000,000 บาท

<"">
<"">

 

ใบเสร็จรับเงินสหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์ก พัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ระบุว่า มีรายได้ 280,000 บาท จากค่าฝึกอบรมโครงการยกระดับฝีมือแรงงานลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม เมื่อ ปี 2554 แต่จำนวนนี้ ภัทร ฤทธิ์อนันต์ชัย ผู้จัดการ สหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์ก พัฒนานิคม ตัวแทนสหกรณ์ ยืนยันว่า เป็นรายได้ที่ไม่ครบตามจำนวน ค่าฝึกอบรมจริง เพราะหากเป็นไปตามเงื่อนไขงบประมาณฝึกอบรม สหกรณ์โคนมแห่งนี้ ควรจะได้รับเงินค่าฝึกอบรม 570,000 บาท และจำนวนเงินค่าฝึกอบรม หายกว่าครึ่งหนึ่ง

สหกรณ์โคนม พัฒนานิคม ไม่ต่างจากผู้ประกอบการอื่น ที่ยื่นขอความต้องการ ขอจัดอบรมพนักงาน มีสภาอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี เสนอตัวต่อกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อใช้งบประมาณ กว่า 12,000,000 บาท ให้ฝึกอบรมผู้ประกอบการ 150 รุ่น แต่ละรุ่นได้รับงบประมาณ เฉลี่ย 81,600บาท แต่เมื่อฝึกอบรมผ่านไป กลับไม่ได้รับเงิน

สนอง ป่าธนู ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี ยอมรับว่า มอบอำนาจให้ผู้อื่นรับเงินแทน กว่า 12 ล้านบาท และมอบหมายคณะทำงานเป็นผู้จ่ายเงินให้ผู้ร่วมโครงการกว่า 6,000,000 บาท เฉพาะค่าวิทยากรและเบี้ยเลี้ยงผู้อบรม

<"">
<"">

 

ส่วนที่เหลืออีก 6,000,000 บาท สภาอุตสาหกรรมลพบุรี แบ่งเป็นรายได้ของสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ปี 2555 จำนวน 1,050,000 บาท และอีกเกือบ 5,000,000 บาท ถูกใช้เพื่อ ระดมคนทำงานและจัดหาอุปกรณ์ที่ใช้อบรม แต่ไม่มีบันทึกการใช้จ่าย

แต่ข้อมูลนี้ ก็มีข้อขัดแย้งกับผู้ประกอบการหลายราย ว่า ระหว่างจัดอบรม สถานประกอบการลงทุนจัดทำเอกสาร จัดทำรายงานสรุป จัดหาเครื่องเขียน และอาหารเองทั้งหมด ไม่ได้ใช้งบประมาณสภาอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี จึงตั้งข้อสังเกตว่า สภาอุตสาหกรรมลพบุรีใช้ค่าดำเนินการมากเกินจริง กว่า 4,000,000 บาท

ล่าสุดคณะกรรมการสอบสวนของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตั้งข้อสังเกตปริศนาส่วนต่างเงินที่หายไป 5,000,000 บาท แต่ไม่มีอำนาจเรียกข้อมูลจากฝ่ายต่างๆ จึงพิจารณาส่งข้อมูลให้ตำรวจ และ ป.ป.ช. ตรวจสอบ

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง