นักวิชาการแนะ รบ. ทำแผนปฏิบัติชัดเจน กรณีเจรจาสันติภาพ
เสียงระเบิดที่ดังขึ้น ใกล้ห้องเรียนของชั้นอนุบาล ทำให้ทหารบาดเจ็บสองนายเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ยังคงเป็นฝันร้ายสำหรับครู และนักเรียนโรงเรียนบ้านเกาะตา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพราะผ่านมาเกือบ 9 ปี โรงเรียนแห่งนี้ถูกเผาสองครั้ง ครูถูกยิงเสียชีวิต 1 คน และเหตุระเบิดในโรงเรียน 1 ครั้ง
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับสถานบันการศึกษา จึงทำให้ครูไม่คาดหวังมากนัก ต่อแนวทางแก้ปัญหาความรุนแรง ถึงแม้จะมีความพยายามของหลายฝ่าย โดยเฉพาะในวันพรุ่งนี้(28 ก.พ.) ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังมาเลเซีย เพื่อความร่วมมือ ในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดโดยยึดแนวทางพูดคุยสันติภาพ แต่สำหรับ เกศนรินทร์ สะนิ ครู ร.ร.บ้านเกาะ จ.ปัตตานี และครูหลายคนแล้วยังมองว่าปัญหานี้ยากที่จะแก้ไข
ขณะที่อับดุลรอนิง สือแต นักวิชาการวิทยาลัยอิสลามศึกษา ม.อ.ปัตตานี มองว่า แม้มาเลเซียจะเหมาะสมที่จะเป็นคนกลาง ในการดึงกลุ่มขบวนการเข้ามาพูดคุยกับรัฐ แต่แนวทางสร้างสันติภาพด้วยการพูดคุย หรือเจรจา รัฐบาลจะต้องจัดทำแผนปฏิบัติ หรือโรดแม็บที่ชัดเจนมากกว่านี้ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากข้อตกลงที่ทำร่วมกันในอนาคต
นอกจากนี้ อับดุลรอนิง ยังมองว่า แม้มาเลเซียจะเคยสำเร็จกับบทบาทของการเป็นคนกลาง ในการเจรจาและสร้างสันติภาพ ให้เกิดขึ้นบนเกาะมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์ แต่ฐานะของมาเลเซียขณะนั้น คือ ประเทศที่ไม่เกี่ยวกับความขัดแย้ง แต่ปัญหาภาคใต้ของไทย มาเลเซียอยู่ในฐานะประเทศที่ต้องรับสภาพผลกระทบจากปัญหานี้ รัฐบาลจึงควรจัดวางมาเลเซียให้เหมาะสม และจะต้องไม่ปิดกันกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ให้เข้าสู่กระบวนการพูดคุย แม้กลุ่มขบวนการเหล่านี้จะมี หรือไม่มีอำนาจในการคุมกองกำลัง เพื่อให้มติที่จะทำร่วมกันในการสร้างสันติภาพ เป็นที่ยอมรับของสังคม