ฟีฟ่าตัดสินใจทดลองใช้เทคโนโลยีโกลไลน์ในเกมส์ฟุตบอล
ในการแข่งขันฟุตบอลคอนเฟดเดอเรชั่นคัพ ปี 2009 เกมระหว่างทีมชาติบราซิล กับ สหรัฐอเมริกา จังหวะที่ กาก้า โหม่งเข้าประตู แต่ทิม ฮาวเวิร์ด ผู้รักษาประตูของสหรัฐอเมริกาไปควักออกมาจากประตู แม้ในเกมนั้น บราซิลชนะไป 3-2 แต่นี่เป็นความผิดพลาดของการตัดสินลูกฟุตบอลข้ามเส้นประตูที่เริ่มมีเสียงวิพากย์วิจารณ์
ในปี 2010 การแข่งขันรายการใหญ่ที่สุด เชื่อถือกันว่ามาตรฐานทุกด้านสูง รวมถึงการตัดสินของกรรมการ แต่กลับเกิดเหตุการณ์ความผิดพลาดในเกมสำคัญคู่บิ๊กแมตช์ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ระหว่างอังกฤษ กับ เยอรมนี โดย ลาริออนด้า ผู้ตัดสินชาวอุรุกวัยลงทำหน้าที่ หลังจากเยอรมนีขึ้นนำอังกฤษ 1-0 อังกฤษเร่งเครื่องจน แฟร้ง แลมพาร์ด ยิงไกลบอลเข้าประตูไปแล้ว แต่กลับกระเด้งออกมา ผู้ตัดสินชาวอุรุกวัยจึงไม่ให้เป็นประตูตีเสมอกับอังกฤษ และทำให้รูปเกมของอังกฤษเสียกระบวน จนแพ้ เยอรมนี 1-4 ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ท่ามกลางเสียงวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักจากสื่อมวลชนทั่วโลก จากความผิดพลาดในการตัดสินจึงทำให้ ผู้ตัดสินชาวอุรุกวัยถูกส่งตัวกลับประเทศ เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เป็นชนวนให้ฟีฟ่าพิจารณานำเทคโนโลยีโกลไลน์มาใช้ทันที
ความผิดพลาดในเกมใหญ่ๆ ยังคงเกิดขึ้นอีกในปี 2012 ในฟุตบอลยูโร ระหว่าง ยูเครน กับ อังกฤษ แม้ มาโก้ เตวิช นักเตะของยูเครน จะยิงข้ามเส้นไปแล้ว จอห์น เทอร์รี่ ตามไปเตะลูกออกจากนั้น กรรมการจึงตัดสินไม่ให้เป็นประตูกับยูเครน
นี่เป็นเหตุการณ์ในการแข่งขันรายการสำคัญๆ ทั้งหมดที่ยังเกิดความผิดพลาดในกรณีลูกฟุตบอลข้ามเส้นประตู จนทำให้ ฟีฟ่าตัดสินใจทดลองใช้เทคโนโลยีโกลไลน์ในเกมฟุตบอล เช่นเดียวกับ กีฬาเทนนิสที่ใช้ ฮอกไอน์ ในการตัดสินว่าลูกลงเส้นหรือไม่