เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอนำหมายเรียกพยานเอกสารเเละพยานบุคคลยื่นแสดงต่อเจ้าของชุดาปาร์ครีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัดขอนเเก่น หลังสืบทราบว่ากลุ่มขบวนการทุจริตสอบครูผู้ช่วยใช้รีสอร์ทแห่งนี้เป็นสถานที่นัดเเนะในการกระทำทุจริตสอบครูผู้ช่วย
เจ้าของรีสอร์ทให้ข้อมูลกับดีเอสไอว่ามีกลุ่มบุคคล 2 - 3 คน มาติดต่อขอใช้ห้องประชุม เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา โดยไม่เเจ้งวัตถุประสงค์การใช้ เเละเข้าใช้สถานที่ เเต่พบความผิดปกติ ตรงที่วันฝึกอบรมคือวันที่ 11 - 12 มกราคม ผู้มาติดต่อไม่ได้ประสานขอสิ่งอำนวยความสะดวกจากทางรีสอร์ททั้งที่มีผู้เข้ามาฝึกอบรมจำนวน 100 คน อายุระหว่าง 20 - 30 ปี เเละสลับหมุนเวียนกัน เข้าห้องประชุมเเทบทุกชั่วโมง
ความผิดปกติในเรื่องของการใช้บริการห้องประชุมของรีสอร์ท ทำให้ผู้ดูเเลสถานที่ในวันนั้น ยอมรับว่าเริ่มสงสัยตั้งเเต่ผู้มาติดต่อใช้บริการ สั่งให้จัดห้องประชุมเเบบโล่งๆ ไม่ขอใช้เครื่องเสียง ไม่อนุญาตให้พนักงานของรีสอร์ทเข้าไปให้บริการภายในห้อง ปิดม่านทึบ โดยใช้เวลาตั้งเเต่ช่วงเช้าถึง 17.00 น. จึงรู้สึกว่าอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้น
จากการสอบปากคำที่เป็นประโยชน์ในวันนี้ของพยานทั้ง 3 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ สามารถเชื่อมโยงได้ว่าการทุจริตสอบครูผู้ช่วย ทำเป็นขบวนการ ซึ่งจากการสอบพยานบุคคลก่อนหน้านี้ให้การว่า ผู้เข้าอบรมใช้อุปกรณ์สื่อสารเพื่อส่งสัญญาณ ต้องจ่ายเงินมัดจำ 7,000 - 8,000 บาทต่อคน เมื่อสอบได้ต้องจ่ายเพิ่มอีก 300,000 - 500,000 บาท โดยการอบรมเพื่อสร้างความเข้าใจถึงรูปเเบบการส่งสัญญาณที่ใช้ในการส่งคำตอบ
นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันเเละปราบปรามทุจริต ดีเอสไอ ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ขบวนการทุจริตจะมีอยู่ในภาคอีสานถึง 3 กลุ่ม โดยใช้รูปเเบบเดียวกันคือ การใช้สัญญาณโทรศัพท์ เเละท่องจำคำตอบ ซึ่งข้อมูลที่ได้ในวันนี้ จะรวบรวมเพื่อสรุปเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ในวันที่ 27 มีนาคมนี้ เเละหากถูกบรรจุเป็นคดีพิเศษ การสืบสวนจะทำได้ง่ายขึ้น โดยสามารถขยายผลไปถึงผู้ร่วมขบวนการ รวมถึงที่มาของข้อสอบที่รั่วได้