เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา อุดรธานี เขต 3 เปิดตู้เซฟเก็บโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นของกลางที่คณะกรรมการคุมสอบยึดได้จากผู้เข้าสอบครูผู้ช่วยคนหนึ่ง โดยเป็นโทรศัพท์ยี่ห้อโนเกีย 1 เครื่อง ซึ่งดีเอสไอได้อายัดไว้เป็นของกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบให้ทราบถึงเทคนิคการทุจริตสอบ
ขณะที่โพยข้อสอบชุดนี้ กรรมการคุมสอบก็ยึดมาได้ เมื่อตรวจสอบกับเฉลยคำตอบของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ก็พบว่าเป็นโพยของวิชาความรู้ความสามารถทั่วไป โดยเฉลยถูกไป 48 ข้อ จาก 50 ข้อ จึงเชื่อได้ว่ามีการทุจริต เพราะเป็นการเฉลยที่ให้คะแนนสูงผิดปกติ
สมพิศ พรหมแสนปัง กรรมการคุมสอบเปิดเผยหลังเข้าให้ข้อมูลกับดีเอสไอว่า พบพิรุธจากผู้เข้าสอบซึ่งเป็นพนักงานราชการชาย โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี อายุประมาณ 40 ปี โดยใส่เสื้อคลุมเข้าสอบ มือซ้ายล้วงกระเป๋าเสื้อตลอดเวลา แม้ได้ตักเตือน แต่ยังแสดงพฤติกรรมพิรุธ จึงตรวจสอบก็พบว่าซ่อนมือถือ และโพยคำตอบไว้ จึงเชิญออกจากห้องสอบทันที
จากการสอบสวนของกรรมการประจำสนามสอบ ผู้ต้องสงสัยอ้างว่าพกโทรศัพท์มา 2 เครื่อง แต่ลืมนำเอาติดตัวเข้าห้องสอบมา 1 เครื่อง ส่วนโพยตัวเลข อ้างว่าเพื่อนำไปซื้อหวย จึงได้ให้ยุติการสอบทันที และเขตพื้นที่ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.หนองหาน พร้อมแจ้งเรื่องไปยังส่วนกลางรับทราบ
ธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ดีเอสไอ ระบุ จากการลงพื้นที่ เชื่อมโยงว่าการทุจริตทำเป็นขบวนการ มีผู้ร่วมกระทำทุจริตในพื้นที่ภาคอีสานมากกว่า 200 คน โดยดีเอสไอจะเสนอเข้าสู่คดีพิเศษได้ภายในปลายเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งการกระทำผิดที่พบ มีแนวโน้มเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณายกเลิกสอบครูผู้ช่วยรายพื้นที่ที่พบทุจริต
สำหรับผู้เข้าสอบที่พบการทุจริต ดีเอสไอจะออกหมายเรียกเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการ และนำไปสู่การตรวจสอบเชิงลึกต่อไป