ปัญหานักฟุตบอล 2 สัญชาติกับการสู้ศึก"เอเชี่ยนคัพ"

ทีมชาติไทยชุดเอเชี่ยนคัพมีนักเตะลูกครึ่งอยู่ในทีมถึง 4 คน แต่หลังจากที่สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ได้ออกกฎไว้ว่า หากนักเตะที่ถือหลายสัญชาติเคยเล่นแมตช์อย่างเป็นทางการกับชาติใดชาติหนึ่งแล้วจะไม่สามารถลงเล่นให้กับทีมอื่นในเอเชี่ยนคัพได้

กฎข้อบังคับที่สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ  AFC ประกาศใช้ในการแข่งขันเอเชี่ยนคัพ ทำให้ทีมไทยได้รับผลกระทบในการเตะฟุตบอลเอเชี่ยนคัพรอบคัดเลือกนัดที่ 2 ที่จะพบกับ เลบานอนในวันที่ 22 มีนาคม ซึ่งชาริล แชปปุยส์ นักเตะลูกครึ่งไทย-สวิส หมดสิทธิ์ลงเล่นให้กับทีมชาติไทย เนื่องจากชาริล แชปปุย เคยเล่นให้กับทีมชาติสวิสเซอร์แลนด์ ในฟุตบอล 17 ปีชิงแชมป์โลกเมื่อในปี 2009 มาแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้ลงสนาม แต่ก็มีรายชื่อติดทีมชาติที่สมาคมฟุตบอลสวิสได้ส่งเข้าร่วมการแข่งขัน

AFC กำหนดไว้ว่านักเตะที่ถือหลายสัญชาติ ถ้าหากลงเล่นในแมตช์อย่างเป็นทางการ หรือ ลงทะเบียนในนามทีมชาติใดไปแล้ว ไม่สามารถลงเล่นให้กับทีมอื่นได้

ขณะที่กฎทั่วไปของฟีฟ่า ระบุ ให้นักเตะที่อายุเกิน 20 ปี หรือ เล่นทีมชาติชุดใหญ่ให้กับทีมชาติใดทีมชาติหนึ่งไม่สามารถเล่นให้ทีมอื่นได้ แต่ถ้าหากเป็นการเล่นระดับเยาวชนสามารถเล่นให้ชาติอื่นได้

กรณีของชาริล แชปปุยส์ ที่ AFC อ้างกฎนี้ ทำให้เกิดความสับสนเนื่องจากขัดแย้งกับฟีฟ่า โดยเขาเล่นให้กับทีมเยาวชน 17 ปีชิงแชมป์โลกของสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นระดับเยาวชน ดังนั้นสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เตรียมยื่นเรื่องให้ฟีฟ่าพิจารณาอีกครั้งหนึ่งเพื่อยืนยัน

สำหรับนักเตะลูกครึ่งอีก 3 คนในทีมชาติชุดเอเชี่ยนคัพ ยังสามารถลงเล่นได้ ทั้ง ปีเตอร์ แลงค์ นักเตะลูกครึ่งไทย-สวิส  แอนโทนี่ อำไพพิทักษ์วงศ์ ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน และ เดนนิส บุชเชนนิ่ง นักเตะลูกครึ่งไทย-เยอรมนี แม้ว่าเอเชี่ยนคัพ ชาริล แชปปุยส์ อาจจะหมดหวังลงเล่นให้กับทีมชาติไทย แต่ในซีเกมส์อาจจะสามารถลงเล่นได้ซึ่งต้องดูกฎของการแข่งขันนั้นๆ อย่างไรก็ตามสมาคมจะส่งกรณีนี้ให้กับฟีฟ่าได้วินิจฉัยเช่นเดียวกัน