มาเลเซียร่วมมือไทยขจัดปัญหาค้ามนุษย์
นายมาเลย์ โต๊ะดิน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปูยู ผู้ต้องหาคดีมนุษย์ชาวโรฮิงญาเครือข่ายนายปัจจุบัน อังโชติพันธ์ หรือโกโต้ง เข้ามอบตัวกับพล.ต.ต. พุทธิชาติ เอกฉันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฎิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า ที่สถานีภูธรปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลาแล้ว หลังศาลจังหวัดนาทวีออกหมายจับในคดีค้ามนุษย์
ในวันเดียวกัน(13 พ.ค. 2558) นายปิยวัฒน์ พงษ์ไทยหรือ โกหย่ง เครือข่ายค้ามนุษย์ใน จ.ระนอง และเป็นนายหน้าค้ามนุษย์รายใหญ่ในพื้นที่ซึ่งถูกศาลจังหวัดนาทวีออกหมายจับ ได้เข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจภูธรขนอม จ.นครศรีธรรมราช แล้ว ก่อนที่จะถูกส่งตัวมาที่สถานีตำรวจภูธรสะเดา จ.สงขลา เพื่อแถลงข่าวและดำเนินคดีกับนายปิยะวัฒน์ต่อไป โดยโกหย่งให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
พล.ต.อ. เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาเชื่อมีผู้บงการระดับสูงกว่านายปัจจุบัน หรือ โกโต้ง แต่ในขณะนี้ตำรวจถือว่าโกโต้งเป็นนายทุนใหญ่ที่สุดในขบวนการค้ามนุษย์ ส่วนใครจะใหญ่กว่ายังเปิดเผยไม่ได้เพราะจะเสียรูปคดี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาได้แล้วทั้งสิ้น 24 คน จากที่ออกหมายจับไปแล้ว 61 คน เหลืออีก 37 คน ที่ยังหลบหนี
ขณะที่เมื่อวานนี้(13 พ.ค. 2558) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายจับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ให้แก่ตำรวจมาเลเซีย ในที่ร่วมประชุมทวิภาคีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย จ.ภูเก็ต เพื่อช่วยติดตามคดีในกรณีที่ผู้ต้องหาหลบหนีเข้าไปในมาเลเซีย โดยไทยขอให้มีการประสานเพื่อผู้นำต้องหากลับมาดำเนินคดีในไทย
ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ว่าปัญหาค้ามนุษย์และการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติของชาวโรฮิงญา เป็นปัญหาที่ซับซ้อนและมีความรุนแรงโดยเป็นหนึ่งในปัญหาเร่งด่วนของภูมิภาคนี้
ทั้งนี้รัฐบาลไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2558 ที่กรุงเทพมหานคร โดยจะเชิญเจ้าหน้าที่อาวุโสจากประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 15 ประเทศ รวมทั้งเชิญประเทศผู้สังเกตการณ์ อาทิ สหรัฐอเมริกา ตลอดจนผู้แทนองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR เข้าร่วมด้วย