การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2 ล้านล้านบาท วาระแรก เมื่อวาน(28 มี.ค.2556) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงความจำเป็นในการใช้เงินจำนวนมากเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ โดยยืนยันว่าจะไม่ให้กระทบต่อฐานะทางการเงินการคลังของประเทศ โดยย้ำถึงภาพรวมของหนี้สาธารณะจะอยู่ในระดับที่บริหารได้ และจเหมาะสม สามารถรองรับต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือเกิดความผันผวนในอนาคตได้ และพร้อมให้ตรวจสอบทุกกระบวนการ รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อความโปร่งใส อกทั้งการดำเนินการจะมีการรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายเพื่อประกอบการตัดสินใจ
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำว่า โครงการต่าง ๆ ในร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ ไม่มีความจำเป็นต้องกู้เงินมาลงทุน ขณะเดียวกันขอให้รัฐมนตรีชี้แจงตามข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลบรรจุข้อเสนอรายละเอียดโครงการแนบร่าง พ.ร.บ.ตามที่พรรรคประชาธิปัตย์ เสนอไปก่อนหน้านี้
ทั้งนี้การอภิปรายของ ส.ส.ฝ่ายค้านส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับการออกพระราชบัญญัติ และเห็นว่ารัฐบาลสามารถดำเนินการตามงบประมาณปกติได้ นอกจากนี้เห็นว่าพระราชบัญญัติเป็นภาระหนี้สินซึ่งผูกพันระยะยาว 50 ปีขึ้นไป โดยไม่มีหลักประกัน ซึ่งอาจนำไปสู่การขยายฐานภาษีกระทบกับประชาชน
ขณะที่กลุ่ม 40 ส.ว. และ ส.ส.พรรคประชาธิปิตย์ นำโดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา และ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ทีมกฏหมายพรรค ยื่นรายชื่อสมาชิกรัฐสภา จำนวน 76 คน แต่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เพื่อให้ส่งความเห็นไปศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย ว่าร่าง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ มีข้อความขัดแย้งรัฐธรรมนูญ หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติต่อรัฐธรรมนูญ
สำหรับการพิจารณาร่างพ .ร.บ.กู้เงิน วาระแรกในวันนี้ (29 มี.ค.2556) ซึ่งกำหนดให้อภิปรายเป็นวันสุดท้าย จะเริ่มขี้นในเวลา 09.30 น.