จัดอันดับ 50 มือปืน ก่อนการเลือกตั้ง
หลังเหตุลอบยิง “ประชา” อดีต ส.ส.เพื่อไทย และมีสัญญาณการแข่งขันที่รุนแรงก่อนการเลือกตั้ง ตำรวจได้จัดอันดับมือปืนที่ต้องการตัวมากที่สุด 50 อันดับ ที่มีค่าหัวคนละ 100,000 บาท และสั่งเร่งกวาดล้าง หวังเป็นการแก้ปัญหาความรุนแรง
โฉมหน้าของ 50 มือปืนรับจ้างที่มีหมายจับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติถูกเผยแพร่เพื่อให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจในแต่ละพื้นที่ได้ร่วมกันตรวจสอบ หลังงานด้านการข่าวของศูนย์บริหารเหตุการณ์ร้ายแรง ที่มี พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับผิดชอบ ได้ระบุว่า จะมีแนวโน้มความขัดแย้งและรุนแรงในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสานบางพื้นที่ รวมทั้งมีปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้สมัคร จนนำมาสู่การลงมือก่อเหตุด้วยอาวุธสงคราม
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ เปิดเผยว่า จากนี้ไปตำรวจจะใช้มาตรการเชิงรุก ตรวจค้นกดดันกลุ่มมือปืนและผู้สนับสนุนทุกรูปแบบ แม้หากไม่สามารถจับกุมได้ ก็จะไม่ยอมปล่อยให้ออกมาก่อเหตุ โดยมอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจแต่ละภาคและผู้บังคับการแต่ละจังหวัดลงพื้นที่เพื่อเรียกคู่กรณีที่มีความขัดแย้งมาพูดคุยทำความเข้าใจ ลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น
จนถึงขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติยอมรับแล้วว่ามี ส.ส.ที่ขอตำรวจคุ้มกันในช่วงก่อนการเลือกตั้งแล้ว 3 คน คือนายประชา ประสพดี อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ที่ถูกประกบยิง, น.ส.ปรีชญา ขำเจริญ อดีต ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ และ น.ส.ณัชณิชา ขำเจริญ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรี เขต 5 พรรคประชาธิปัตย์ หลังพบมีถูกผู้ไม่หวังดีขับรถตาม
และในวันนี้ (14 พ.ค.) ตำรวจกองปราบปรามจับผู้ต้องหาครอบครองอาวุธปืนเอ็ม 16 พร้อมเครื่องกระสุนอีก 8 ชนิด ที่บ้านพักในอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ แม้จากการสอบสวนไม่พบว่าจะมีความเชื่อมโยงกับคดียิงนายประชา แต่ตำรวจยอมรับว่าในช่วงระหว่างหาเสียงเลือกตั้งได้มีการซื้อขายอาวุธสงครามในตลาดมืดอย่างกว้างขวาง
สำหรับรายชื่อมือปืนรับจ้างที่ถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกหมายจับมีจำนวนทั้งสิ้น 112 คน โดยในปี 2548 สามารถจับตัวได้ 24 คน, ปี 2549 จับได้ 18 คน, ปี2550 จับได้ 7 คน
ล่าสุดปี 2554 จากการเปิดเผยในบัญชี 50 มือปืนรับจ้าง สามารถจับได้แล้ว 6 คน และเสียชีวิต 1 คน โดยพบว่าในบรรดามือปืนรับจ้างที่เหลือ มีหมายจับของ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา และ ส.อ.สมชาย บุนนาค มือปืนยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยร่วมอยู่ด้วย โดยอยู่ในลำดับที่ 13 และ 14 ตามลำดับ