นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ พร้อมนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะผู้นำคณะฝ่ายไทยต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ จากกรุงเฮก ซึ่งนอกจากการยืนยันถึงการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ โดยทีมทนายชุดเดิมแล้ว นายสุรพงษ์ ยังชี้แจงข้อกล่าวหาไม่เคยเอาเรื่องของประเทศชาติเป็นเกมการเมือง โดยสิ่งที่เคยกล่าวว่า คดีนี้เสมอตัว คือหากศาลไม่รับตีความ ทุกอย่างกลับไปเหมือนปี 2505 กลับไปอยู่แบบเดิม ไทยและกัมพูชาก็จะพัฒนาพื้นที่พระวิหารร่วมกับพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งมั่นใจว่าผลการตัดสินของศาลจะไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ
ขณะที่นายวีรชัย ระบุ ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาอย่างไร คงไม่ไปก้าวล่วงอำนาจศาล แต่สิ่งที่ดำเนินการไปย้ำว่าทำดีที่สุด และละเอียดที่สุดแล้ว ผลจะออกมาอย่างไรก็สบายใจ พร้อมยืนยันการทำงานคดีนี้กับ 2 รัฐบาล ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ไม่แตกต่างกัน
สำหรับคดีปราสาทพระวิหาร หลังแถลงปิดคดีเสร็จสิ้นทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา ผู้พิพากษาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศขอให้ทั้ง 2 ประเทศส่งข้อมูลที่ขอเพิ่มเติม คือ พิกัด แผนที่ที่ชัดเจนของพื้นที่ใกล้เคียงปราสาทพระวิหารตามความเห็นของแต่ละฝ่าย ตามกำหนดเวลาวันที่ 26 เมษายน และครั้งนี้ถือเป็นการให้การครั้งสุดท้าย โดยศาลจะไม่ขอเอกสารหรือให้การเพิ่มอีก และจะพิจารณาและตัดสินในเวลาที่เหมาะสมต่อไป