ชาวบ้านร้องเจ้าหน้าที่ตรวจสอบซากสะพานพังถล่ม หลังพบสลิงมีสภาพเก่า

ภูมิภาค
1 พ.ค. 56
12:26
153
Logo Thai PBS
ชาวบ้านร้องเจ้าหน้าที่ตรวจสอบซากสะพานพังถล่ม หลังพบสลิงมีสภาพเก่า

ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพสายสลิงของสะพานแขวนที่พังถล่ม หลังชาวบ้านพบว่า สลิงแต่ละเส้นมีสภาพคล้ายเก่าและใหม่ปนกัน ทั้งที่สะพานเพิ่งก่อสร้างเสร็จ

เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานทยอยเก็บกู้ซากสะพานแขวนข้ามแม่น้ำป่าสัก ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่พังถล่มจนทำมีผู้เสียชีวิต 5 คน และบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมาล่าสุด เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้พบรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน โดยจะกู้เอาโครงสะพานที่ทำจากเหล็ก และแผ่นคอนกรีตขึ้นจากน้ำ

นายทวีศักดิ์ นาคสิทธิ์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าหลวง กล่าวว่า ชาวบ้านตั้งข้อสงสัยถึงสลิงสายหลัก 2 ข้าง ที่รับน้ำหนักสะพานแขวน ซึ่งพบว่า สลิงทุกเส้นมีแกนกลางเป็นเชือก และแต่ละเส้นมีสภาพสีคล้ายเก่าและใหม่ แตกต่างกัน ทำให้ชาวบ้านสงสัย และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวเร่งตรวจสอบ ซึ่งข้อสังเกตนี้ ทำให้ป้องกันหวัด สั่งตัดตัวอย่างสลิงไปตรวจสอบ ซึ่งสลิงบางเส้นขึ้นสนิม ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมตรวจสอบว่า เป็นสลิงเก่าหรือไม่

ขณะที่สะพานแขวนข้ามแม่น้ำป่าสักอีกแห่งหนึ่ง เชื่อมวัดสะตือ และวัดไก่จ้น ที่มีลักษณะเดียวกันและอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร พบว่ามีสภาพชำรุด ขณะนี้ทางเทศบาลตำบลท่าหลวงสั่งปิดห้ามใช้งานโดยเด็ดขาด

ส่วนการดำเนินคดีทางกฎหมาย พ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าเรือ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งช่างโยธาเทศบาลตำบลท่าหลวง ปลัดอำเภอ และตัวแทนของบริษัทก่อสร้าง ถึงขั้นตอนในการทำสัญญาจ้าง การก่อสร้าง รวมทั้งสอบสวนชาวบ้าน และผู้บาดเจ็บ ส่วนจะดำเนินคดีกับบุคคลใดต้องรอผลสรุป จากคณะกรรมการตามคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังกำหนด 15 วัน หากพบว่า มีความเกี่ยวโยงไม่ว่าด้านใดในเรื่องของความประมาท หรือ วัสดุอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน จะต้องดำเนินคดีเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ

นายชาตรี อยู่ประเสริฐ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรียกร้องให้ บริษัทดีไนซ์ 2009 จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับก่อสร้างจากเทศบาลตำบลท่าหลวง เป็นผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะได้รับงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดจำนวน 8.2 ล้านบาท ซึ่งดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2555 และในสัญญาจ้างระบุว่า สิ้นสุดระยะประกันผลงานการก่อสร้างในวันที่ 23 กรกฎาคม ปี 2557


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง