เกิดเหตุลอบวางเพลิงรถชาวบ้านใน จ.สงขลา เสียหาย 2 คัน

ภูมิภาค
8 พ.ค. 56
07:25
68
Logo Thai PBS
เกิดเหตุลอบวางเพลิงรถชาวบ้านใน จ.สงขลา เสียหาย 2 คัน

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามผู้ก่อเหตุยิงปลัดเทศบาลตำบลมายอ จังหวัดปัตตานี เสียชีวิตเมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) โดยเจ้าหน้าที่ให้น้ำหนักประเด็นความขัดแย้งในการทำงาน และ ความขัดแย้งส่วนตัว ขณะที่จังหวัดสงขลาเกิดเหตุลอบวางเพลิงรถยนต์และรถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน

เกิดเหตุลอบวางเพลิง ภายในโรงรถ หมู่ 6 ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ซึ่งรถกะบะ หมายเลขทะเบียน บธ 168 สงขลา ของนางสาวตอยป๊ะ หะเถาะได้รับความเสียหาย โดยนางตอยป๊ะ บอกว่า ไม่เคยขัดแย้งกับใคร และเมื่อเดือนธันวาคมปี 2555 ก็เคยถูกลอบวางเพลิงบ้านมาแล้ว จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ก่อเหตุใช้กาบต้นหมาก ซึ่งตัดมาจากใกล้มัสยิดใกล้บ้านเป็นชนวนจุดไฟ และในเวลาไล่เลี่ยกัน ยังเกิดเหตุเผารถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน หมู่ 1 ตำบลท่าม่วง อำเภอเทพา เสียหายอีกหนึ่งคัน

ด้านคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุความรุนแรง ซึ่งแต่งตั้งโดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต) เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุความรุนแรงหลังการพูดคุยสันติภาพ ได้นำกรณีเหตุกราดยิงชาวบ้านเสียชีวิต 6 ศพ ในตำบลรูสะมิแล อำเภอเมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม มาสอบสวน ทั้งในเรื่องของอาวุธปืนที่นำมาใช้ก่อเหตุกว่า 19 ครั้ง และสืบหาว่าเป็นแนวร่วมกลุ่มใด ก่อนจะสรุปผลสอบสวนให้เลขาธิการ ศอ.บต.ภายใน 10 วัน

ขณะที่การติดตามผู้ก่อเหตุยิง นายธีรลักษณ์ สุวรรณรัตน์ ปลัดเทศบาลตำบลมายอ จังหวัดปัตตานีเสียชีวิตเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพวงจรปิด เบื้องต้น ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว และในการทำงาน แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ และเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่จังหวัดปัตตานี ยังเกิดเหตุกราดยิงชาวบ้านในตำบลไม้แก่น อำเภอไม้แก่น ขณะนั่งหน้าบ้านทำให้นางตีบ แดงดี และนายมาโนช ทองเอียด ได้รับบาดเจ็บ

ส่วนที่จังหวัดนราธิวาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล หน่วยเฉพาะกิจจังหวัดนราธิวาส รวมถึงประชาชนในพื้นที่ โดยแสดงความเชื่อมั่นแนวทางแก้ปัญหาการเดินหน้า 9 ยุทธศาสตร์ความมั่นคง และแผนงานเดิม ที่ไม่เน้นการใช้ความรุนแรงจะเป็นแนวทางที่ทำให้ปัญหาชายแดนใต้คลี่คลายได้ ส่วนในช่วงเปิดภาคเรียนนี้ ได้กำชับฝ่ายปฏิบัติในการคุมเข้มตามจุดเสี่ยงต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการดูแล 3 จุดสำคัญ ได้แก่ บ้านพัก, เส้นทาง และ โรงเรียน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง