สหรัฐฯ ขอไทยพิจารณาตั้งศูนย์พักพิงโรฮิงญาชั่วคราว

สหประชาชาติเรียกร้องให้ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ร่วมรับผิดชอบต่อผู้อพยพชาวโรฮิงญา ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกาโทรศัพท์หารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย เรียกร้องให้พิจารณาการตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวดูแลผู้อพยพ

นายรูเพิร์ต คอลวิลล์ โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) แสดงความเป็นห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อกรณีที่ประเทศไทยได้ผลักดันเรือผู้อพยพชาวโรฮิงญากว่า 300 คน ที่เข้ามาใกล้กับเกาะหลีเป๊ะออกนอกน่านน้ำ ซึ่งอาจทำให้ชาวโรฮิงญาเสียชีวิตกลางทะเล ทั้งๆ ที่อาจหลีกเลี่ยงความสูญเสียได้

OHCHR ประเมินว่าขณะนี้มีผู้อพยพชาวโรฮิงญาประมาณ 6,000 คน ลอยลำอยู่ในทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ร่วมกันรับผิดชอบต่อผู้อพยพที่มีทั้งผู้หญิงและเด็กรวมอยู่ด้วย ทั้งนี้เห็นว่าการควบคุมตัวผู้อพยพไม่ใช่ทางออกของปัญหา ในทางกลับกันผู้อพยพควรได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนและกฎหมายผู้ลี้ภัยนานาชาติ

ส่วนนายเจฟฟ์ ราธเค โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่านายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาโทรศัพท์หารือกับ พล.อ.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยเมื่อคืนวันพฤหัสบดี (14 พ.ค.2558) ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้ง 2 ประเทศได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้อพยชาวโรฮิงญาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสหรัฐอเมริกาขอให้ไทยพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวให้แก่ผู้อพยพชาวโรฮิงญา

ส่วนนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้แสดงความกังวลต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมา รวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ในรัฐยะไข่ ซึ่งได้รับการปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรมและบ่อยครั้งที่ผู้กระทำผิดไม่ได้รับการลงโทษ