ผลกระทบหากไม่ใช้ธรรมนูญฟีฟ่า
สมาคมฟุตบอลบรูไนมีการเมืองเข้ามาแทรกแซงด้วยการที่รัฐบาลสั่งยกเลิกสมาคมฟุตบอลของตัวเอง และตั้งสมาคมฟุตบอลขึ้นมาใหม่ในปี 2008 พร้อมทั้งไม่ยอมรับการส่งสัญญาณขอให้สมาคมฟุตบอลบรูไน ดำเนินการใช้ธรรมนูญฟีฟ่าเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล และคณะบริหารของสมาคม ทำให้ฟีฟ่าตัดสินลงโทษแบน บรูไน ห้ามเข้าร่วมการแข่งขันทุกรายการของฟีฟ่า และจะรวมไปถึงการแข่งขันของสหพันธ์ฟุตบอลแห่งอาเซียน หรือ AFF และการแข่งขันของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ AFC ด้วย
จากการลงโทษครั้งนั้น แม้นักเตะของบรูไนจะเดินทางไปถึงฟิลิปปินส์ เพื่อลงเตะฟุตบอล AFC ชาเลนจ์คัพ รอบคัดเลือก แต่คณะกรรมการจัดการแข่งขันไม่สามารถให้นักเตะบรูไนลงแข่งได้ เพราะฟีฟ่าได้ส่งหนังสือยืนยันการลงโทษอย่างเป็นทางการ ทำให้ AFF กับ AFC ต้องปฏิบัติตามด้วยการลงโทษแบนเช่นกัน นอกจากบรูไนแล้วยังมีประเทศใน แอฟริกา คอนคาเคฟ รวมถึงโอเชียเนียที่เคยถูกลงโทษจากการไม่ยอมใช้ธรรมนูญฟีฟ่าด้วยเช่นกัน
จุดประสงค์ของฟีฟ่าในการให้ทุกสมาคมฟุตบอลที่เป็นสมาชิกของฟีฟ่านำธรรมนูญการปกครองที่เป็นมาตรฐานทั่วโลกไปใช้ เนื่องจากต้องการให้เกิดการปกครองที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงในองค์กรของตัวเอง ซึ่งการลงโทษของฟีฟ่ามี 2 ลักษณะ คือหากไม่รับธรรมนูญฟีฟ่าจะต้องระบุชัดเจนว่าใครไม่รับ และฟีฟ่าจะให้การรับรองเฉพาะคนที่รับธรรมนูญฟีฟ่าไปใช้เท่านั้น และหากไม่รับธรรมนูญ ฟีฟ่าจะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการฉุกเฉินเพื่อพิจารณาลงโทษ
ในขั้นตอนของการสั่งลงโทษจะเริ่มต้นจากคณะกรรมการที่ดูแลสมาคมฟุตบอลทั่วโลก ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการของที่ประชุมใหญ่พิจารณา จากนั้นจะเข้าสู่คณะกรรมการบริหารของฟีฟ่า จึงจะมีการประกาศลงโทษประเทศที่ไม่ยอมรับธรรมนูญการเลือกตั้งของฟีฟ่าไปใช้ การลงโทษจะรวมไปถึงแบนระดับอาเซียน และเอเชีย