ส.ฟุตบอลฯ ยืนยันธรรมนูญฟีฟ่า ไม่มีใครได้เปรียบ
ฟีฟ่าจะประกาศให้สมาคมฟุตบอลทั่วโลก 209 ประเทศที่เป็นสมาชิกของฟีฟ่าให้ใช้ธรรมนูญเลือกตั้งตามมาตรฐานสากลในการประชุมใหญ่วันที่ 31 พฤษภาคม ที่มอริเชียส ซึ่งสมาคมฟุตบอลทั่วโลกจะต้องปฏิบัติตาม และสมาคมฟุตบอลของไทยยืนยันจะต้องใช้ธรรมนูญเลือกตั้งฟีฟ่า ที่มีการกำหนดสิทธิ์ของสโมสรที่มีสิทธิ์เลือกตั้งนายกสมาคมโดยต้องเป็นสโมสรอาชีพเท่านั้น จะทำให้สโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์ออกเสียงของไทยเหลือ 72 เสียง
สมาคมฟุตบอลยังยึดมั่นเจตนารมณ์ให้การเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลเป็นประชาธิปไตยตามแนวทางของฟีฟ่า และไม่ได้หมายความว่าการเปลี่ยนไปใช้ระบบการเลือกตั้งของฟีฟ่า จะทำให้นาย วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้เปรียบคู่แข่งแต่อย่างใด
นายวิรัช ชาญพานิชย์ ผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมกับนายวรวีร์ ที่ถือเป็นคู่แข่งสำคัญ และได้รับการสนับสนุนจากขั้วตรงข้ามกับสมาคมฟุตบอล คือกลุ่มชลบุรี และนายเนวิน ชิดชอบ รวมถึงขั้วอำนาจเก่าของนายวิจิตร เกตุแก้ว อดีตนายกสมาคมฟุตบอล ที่เชื่อว่ามีเสียงสนับสนุนอยู่ถึง 140 เสียง มองว่าแนวทางการเลือกตั้งแบบเก่าเหมาะสมมากกว่า เพราะการเปลี่ยนธรรมนูญเลือกตั้งของฟีฟ่าไม่สามารถนำมาใช้ในวาระนี้ได้ทัน
ขณะที่สมาคมฟุตบอลยืนยันว่าจะเปลี่ยนไปใช้ธรรมนูญของฟีฟ่า ทำให้นายวิรัช กล่าวอย่างหนักแน่นว่า ไม่ว่าจะใช้แนวทางการเลือกตั้งแบบไหนก็พร้อมเสมอ ส่วนการจำกัดสิทธิ์เหลือ 72 เสียง ต้องชี้แจงที่มาให้ชัดเจน
ข้อสังเกตที่น่าสนใจของนายวิรัช คือการทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งของสมาคม เนื่องจากผู้บริหารของสมาคมจะหมดวาระในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ ดังนั้น ควรแยกบทบาทให้ถูกต้อง เนื่องจากสมาคมมีหน้าที่เพียงจัดการเลือกตั้งเท่านั้น ส่วนการแก้ไขธรรมนูญฟีฟ่า ไม่ว่านายกสมมาคมคนต่อไปจะเป็นใครก็สามารถดำเนินการแก้ไขได้