รมว.ศธ.สั่งสอบวินัยร้ายแรง เลขาธิการ กพฐ.
มูลเหตุสำคัญที่อาจทำให้ตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานของ นายชินภัทร ภูมิรัตน ต้องยุติลงก่อนเกษียณอายุราชการ ในเดือนกันยายนนี้ หนีไม่พ้นปัญหาการพบทุจริตจัดสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ เมื่อต้นปี 2556 ที่ผ่านมา
ซึ่งผลสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า พบหลายประเด็นที่ชี้ให้เห็นว่า นายชินภัทร ในฐานะผู้บริหารสูงสุด ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ นำไปสู่การตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง
ข้อสรุปของ คณะกรรมการตรวจสอบมั่นใจว่า เฉลยคำตอบรั่วก่อนการจัดพิมพ์ข้อสอบ กลายเป็นประเด็นหลักที่ชี้ให้เห็นถึงการบริหารจัดการสอบ ที่ประมาท เลินเล่อ ของนายชินภัทร และยิ่งตอกย้ำในพฤติกรรม หลังพบกรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หรือ สพป.อุดรธานี เขต 3 และ สพป.ยโสธร เขต 1 ตรวจจับการทุจริตสอบ โดยยึดโพยเฉลยคำตอบจากผู้เข้าสอบ ซึ่งเขตพื้นที่ได้แจ้งมายังส่วนกลางในทันที แต่ในฐานะกำกับดูแล สพฐ.กลับไม่ดำเนินการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ความผิดปกติระหว่างการจัดสอบที่ถูกปล่อยให้ล่วงเลย จนถึงการตรวจกระดาษคำตอบ ซึ่งปรากฎมีผู้ได้คะแนนสูงผิดปกติกว่า 500 คน แต่ก็ไม่พบการท้วงติงใดๆ จากเลขาธิการ กพฐ.คนนี้ ทำให้ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ เชื่อได้ว่า เป็นการปล่อยปละละเลย ที่ส่งผลเสียหายต่อระบบราชการ
แม้จะถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง แต่นายชินภัทร กลับไม่รู้สึกกังวล เพราะเชื่อว่าเป็นวิถีทางของราชการ เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้น โดยเฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่อย่าง สพฐ. ก็ต้องยอมรับสู่กระบวนการตรวจสอบ จึงพร้อมจะชี้แจงทุกประเด็นให้เกิดความชัดเจน
ล่าสุด ยังไม่มีคำสั่งย้าย นายชินภัทร ไปช่วยราชการระหว่างการสอบสวนวินัย โดย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศีกษาธิการ ยืนยันว่าหากได้รับรายงานจากคณะกรรมการฯ ว่าการดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กพฐ. ของนายชินภัทร กลายเป็นอุปสรรคต่อการตรวจสอบ อาจพิจารณาย้ายไปช่วยในราชการภายหลัง ทั้งนี้หาก นายชินภัทร เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคำสั่งดังกล่าว สามารถอุทธรณ์คำสั่งไปยังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ภายใน 30 วัน