เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องสงสัย เหตุระเบิดหน้าซ.รามคำแหง 43 ไปสอบสวน

อาชญากรรม
27 พ.ค. 56
04:16
41
Logo Thai PBS
เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องสงสัย เหตุระเบิดหน้าซ.รามคำแหง 43 ไปสอบสวน

ก่อนการประชุมความคืบหน้า คดีระเบิดบริเวณปากซอยรามคำแหง 43/1 ถนนรามคำแหง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยเบื้องต้นกำลังเร่งตรวจสอบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นความขัดแย้งของแผงค้าหรือไม่ แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาชายแดนภาคใต้ ขณะที่หลังเกิดเหตุได้ไม่นาน เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบสวนแล้ว

กล้องวงจรปิดจากร้านค้าที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุระเบิดหน้าปากซอยรามคำแหง 43/1 สามารถบันทึกเหตุระเบิดหน้าซ.รามคำแหง 43 ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.39 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 พ.ค.2556)  โดยตั้งแต่เวลา 08.00 น.ที่ผ่านมาชุดสืบสวนคดีระเบิด จะร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ โดยมี พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัตร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธานการประชุม

ในเบื้องต้น หลังจากที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพสาขาย่อย รามคำแห่ง 43/1 รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ระเบิดที่พบ เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง โดยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดหรือ EOD สามารถเก็บภาชนะบรรจุ ,สายไฟ และเศษตะปู จำนวนมาก และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบอานุภาพของระเบิดว่าหวังผลในการทำลายล้างสูงเพียงใด แต่เบื้องต้นจากภาพที่ปรากฎพบว่า สร้างความเสียหายระยะรัศมี 5 เมตร ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 คน เป็น หญิง 5 คน ชาย 2 คน หนึ่งในจำนวนบาดเจ็บสาหัส 1 คน

ส่วนประเด็นและสาเหตุในครั้งนี้ ต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับประเด็นแผงค้าขายในพื้นที่ ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่า อาจเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับประเด็นที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมผู้นำเหล่าทัพ หรือ กรณีปัญหาชายแดนภาคใต้ ซึ่งตำรวจไม่ต้องการให้สื่อมวลชน นำเรื่องดังกล่าวไปเชื่อมโยงกัน

ด้าน พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เปิดเผยภายหลังเรียกประชุมพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ว่า ยังไม่มีข้อสรุปในกรณีนี้ แต่ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนดำเนินการอย่างเร่งด่วนและรอบคอบ และมีรายงานด้วยว่า หลังการเกิดเหตุได้ไม่นาน ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง ซึ่งมีพฤติการณ์น่าสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น โดยได้เข้าไปถ่ายภาพในจุดเกิดเหตุ ซึ่งตำรวจได้นำตัวผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวไปสอบสวนที่ สน.หัวหมาก

เบื้องต้นมีรายงานที่ไม่ได้รับการยืนยันว่า พบบัตรประจำตัวข้าราชการครู ของนายอะห์หมัด ดือราโอะ อายุ 40 ปี ครูผู้สอน โรงเรียนบ้านบูดี ตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ในจุดที่เกิดเหตุระเบิด โดยนายอะห์หมัด ถูกขับจักรยานยนต์ประกอบยิงจนเสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ในเวลาใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุระเบิดที่ซ.รามคำแหง

สำหรับบัตรที่มีการอ้างว่าถูกพบในที่เกิดเหตุเป็นภาพที่ถูกส่งต่อทางระบบโซเชียลมีเดียของตำรวจและสื่อมวลชน แต่ไม่มีผู้ยืนยันข้อมูลที่ชัดเจนว่า เหตุการณ์ทั้ง 2 เหตุการณ์มีความเชื่อมโยงกัน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง