CIPURSE มาตรฐานตั๋วร่วมแบบเปิด ทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับระบบตั๋วร่วม

Logo Thai PBS
CIPURSE มาตรฐานตั๋วร่วมแบบเปิด ทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับระบบตั๋วร่วม

ในปัจจุบันกระทรวงคมนาคมโดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)เล็งเห็นประโยชน์ของการใช้ระบบตั๋วร่วมต่อผู้ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้ตั๋วโดยสารเพียงใบเดียวกับบริการขนส่งสาธารณะทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถไฟฟ้า BTSรถไฟฟ้าใต้ดิน รถโดยสารประจำทาง เรือโดยสาร รวมถึงการใช้บริการระบบทางด่วนสายต่างๆ

 เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีความสะดวกสบายในการเดินทาง ลดระยะเวลาที่จุดเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะและประหยัดค่าโดยสารเพราะไม่ต้องเสียค่าแรกเข้าซ้ำซ้อนในกรณีของการใช้บริการขนส่งสาธารณะมากกว่าหนึ่งบริการรวมทั้งยังสามารถนำตั๋วโดยสารไปใช้ทำธุรกรรมการชำระเงินประเภทอื่น ๆ เช่น การชำระเงินค่าสาธารณูปโภค การซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าทั่วไป เป็นต้น 

 
ปัจจุบันนี้ได้มีการนำเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาประยุกต์ในการพัฒนารูปแบบของตั๋วโดยสารทำให้ไม่ได้มีเพียงตั๋วกระดาษแบบที่เราคุ้นเคย แต่มีตั๋วโดยสารหลากหลายรูปแบบซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีต่างๆไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีสมาร์ทการ์ดที่สามารถรองรับการใช้ตั๋วโดยสารกับบริการต่างๆ (multi-application cards) เทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification)ที่ทำให้เกิดตั๋วโดยสารแบบไร้สัมผัส (contactless cards)หรือเทคโนโลยี NFC (Near Field Communication)ที่ออกแบบมาให้โทรศัพท์มือถือสามารถใช้เป็นตั๋วโดยสารเพื่อให้เกิดความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ

ที่สำคัญตั๋วโดยสารเหล่านี้ จะต้องมีการระบบจัดเก็บค่าโดยสารที่มีประสิทธิภาพและมีความมั่นคงปลอดภัย เพื่อทำให้ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการเกิดความมั่นใจว่ามูลค่าเงินและข้อมูลภายในบัตรมีความถูกต้อง และสามารถป้องกันการทุจริตที่เกิดจากการใช้บัตรโดยสารได้ 

 
การที่ตั๋วโดยสารมีหลากหลายรูปแบบ มีคุณลักษณะและเทคโนโลยีที่มีความแตกต่างกัน รวมถึงระบบขนส่งสาธารณะที่อยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรที่แตกต่างกัน เช่น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ส่งผลให้ระบบการจัดเก็บค่าโดยสารของระบบขนส่งสาธารณะแต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน ทำให้จำเป็นจะต้องมีการลงทุนเพื่อปรับปรุงระบบให้มีความเชื่อมโยงของระบบการจัดเก็บค่าโดยสาร 
 
และปัญหาที่สำคัญคือการผูกขาดทางเทคโนโลยีของผู้ผลิตอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวกับระบบจัดเก็บค่าโดยสารซึ่งการผูกขาดเทคโนโลยีของผู้ผลิตหรือผู้ขายจะเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาระบบตั๋วร่วม ส่งผลให้ผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะมีตัวเลือกที่น้อยลงในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและมีค่าใช้จ่ายที่สูงในการพัฒนาและปรับปรุงระบบจัดเก็บค่าโดยสารเพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการกำหนดมาตรฐานกลางในการดำเนินงานระบบตั๋วร่วมของประเทศไทยเพื่อให้การปรับปรุงระบบการจัดเก็บค่าโดยสารและระบบอื่น ๆ เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องและสามารถเชื่อมโยงกันได้ รวมถึงลดปัญหาการผูกขาดเทคโนโลยีของผู้ผลิตอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวกับระบบการจัดเก็บค่าโดยสาร 
 
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. และ สนข. ได้เห็นความสำคัญดังกล่าวจึงได้จัดให้มีงานสัมมนาเรื่องของมาตรฐานตั๋วร่วมแบบเปิดเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่บุคคลากรที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งสาธารณะ การกำหนดมาตรฐานตั๋วร่วมแบบเปิดเป็นทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาการผูกขาดเทคโนโลยีของผู้ผลิต ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตหรือผู้ขายนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและมีการแข่งขันด้านราคาและบริการ 
 
โดยผลิตภัณฑ์ของผู้ขายแต่ละรายสามารถทำงานและเชื่อมโยงร่วมกันได้ตามที่มาตรฐานกำหนดช่วยทำให้ผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนเพื่อปรับปรุงระบบ มีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้งานเทคโนโลยีและการปรับเปลี่ยนขนาดของระบบ

ทั้งนี้สมาพันธ์มาตรฐานแบบเปิดเพื่อการขนส่งสาธารณะ หรือOpen Standard for Public Transport (OSPT)Allianceได้พัฒนามาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยแบบเปิดที่เรียกว่า CIPURSE ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะในการสร้างระบบจัดเก็บค่าโดยสารที่มีความมั่นคงปลอดภัยและมีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ภายในมาตรฐานที่กำหนด เพื่อรองรับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและการเชื่อมต่อระบบจัดเก็บค่าโดยสารในอนาคต 

 
มาตรฐานCIPURSEพัฒนาขึ้นโดยอ้างอิงจากมาตรฐานสากลที่มีอยู่แล้ว ได้แก่ISO/IEC 7816ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับสมาร์ทการ์ด และISO/IEC 14443-4ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับกำหนดรูปแบบและกระบวนการรับส่งข้อมูล(transmission protocol) ในระบบจัดเก็บค่าโดยสาร

นอกจากนี้มาตรฐานCIPURSEยังได้กำหนดให้ใช้การเข้ารหัสตามมาตรฐานAES-128(Advanced Encryption Standard)ซึ่งเป็นการเข้ารหัสข้อมูลแบบสมมาตร (symmetrickeyencryption)ที่ใช้กุญแจสำหรับเข้ารหัสขนาด128บิต นอกจากนี้การยืนยันตัวตนของบัตรโดยสารที่อาศัยวิธีการเข้ารหัสแบบ AES-128สามารถทำได้ทั้งแบบofflineระหว่างบัตรกับเครื่องอ่านบัตร และแบบonlineกับระบบของผู้ออกบัตร โดยAES-128ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลด้วยการลดเวลาในการยืนยันตัวตน เนื่องจากมีความเร็วในการประมวลผลสูง แม้ว่าจะใช้กุญแจในการเข้ารหัสที่มีความยาวและความปลอดภัยเพิ่มขึ้นก็ตาม 

 
กระบวนการด้านความมั่นคงปลอดภัยของมาตรฐาน CIPURSE รวมถึงรูปแบบที่ใช้สำหรับการเข้ารหัสข้อมูล มีส่วนช่วยให้การทำงานของระบบจัดเก็บค่าโดยสารรวมถึงตั๋วโดยสารมีความรวดเร็วและมีความปลอดภัยด้วยการป้องกันที่ทนทานต่อการโจมตีประเภทต่างๆ เช่น การโจมตีแบบ differential power analysis (DPA)ซึ่งเป็นการโจมตีที่นักเจาะระบบสามารถล่วงรู้กุญแจสำหรับเข้ารหัสจากการวิเคราะห์รูปแบบของพลังงานที่ใช้ในการเข้ารหัสของสมาร์ทการ์ดหรืออุปกรณ์อื่นๆและการโจมตีแบบ differential fault analysis (DFA)ซึ่งเป็นการโจมตีที่อาศัยสภาพแวดล้อมที่ผิดปกติมาเหนี่ยวนำกระบวนการเข้ารหัสเพื่อจะแสดงสถานะภายในของหน่วยประมวลผล ทั้งนี้CIPURSE ได้กำหนดมาตรฐานที่มีความต้านทานต่อการโจมตีเหล่านี้อยู่แล้ว จึงไม่ต้องอาศัยซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ที่มีมูลค่าสูงมาเพิ่มเติมในการป้องกันการโจมตี ทำให้กระบวนการด้านความปลอดภัยของ CIPURSEสามารถป้องกันการเลียนแบบ การคัดลอก การลอบฟัง การโจมตีแบบman-in-the-middleและความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอื่น ๆ ซึ่งล้วนมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบจัดเก็บค่าโดยสาร 
 
นอกจากกระบวนการด้านความมั่นคงปลอดภัยขั้นสูงแล้ว มาตรฐานCIPURSEยังกำหนดรูปแบบของไฟล์ข้อมูลของแอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับระบบจัดเก็บค่าโดยสารและชุดคำสั่งบังคับในการเข้าถึงไฟล์เหล่านี้ ซึ่งเป็นคำสั่งที่ใช้ระบุกุญแจที่ใช้ในการเข้ารหัส(encryption keys)และเงื่อนไขในการเข้าถึงไฟล์ข้อมูล (accessconditions)  มาตรฐานCIPURSEยังกำหนดวิธีการบริหารจัดการวงจรชีวิตของกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บค่าโดยสาร และลักษณะการทำงานของระบบ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการทำงานร่วมกันและการนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
 
มาตรฐานCIPURSEถูกพัฒนาออกแบบให้รองรับตั๋วโดยสารหลากหลายรูปแบบ เช่น ชิปการ์ดที่มีเพียงแค่หน่วยความจำธรรมดา สมาร์ทการ์ดแบบไร้สัมผัส (contactlesssmartcard)บัตรแบบdual-interfaceบัตรแบบmulti-applicationและโทรศัพท์มือถือที่รองรับเทคโนโลยีNFC จึงทำให้มาตรฐานCIPURSEเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับระบบการขนส่งสาธารณะ เนื่องจากความยืดหยุ่นและความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่างระบบ มาตรฐานยังถูกออกแบบให้รองรับชนิดการใช้งานของตั๋วโดยสารได้หลายชนิดเช่น ตั๋วธรรมดาแบบครั้งเดียวหรือแบบรายวัน ตั๋วโดยสารแบบรายเดือนหรือรายปีที่ต้องอาศัยหน่วยประมวลผลเพื่อประมวลผลข้อมูล และตั๋วโดยสารที่สามารถเติมมูลค่าแบบระบุจำนวนเงินหรือจำนวนวันได้ รวมถึงตั๋วร่วมสำหรับใช้บริการขนส่งสาธารณะและใช้ในการทำธุรกรรมประเภทอื่น ๆ เช่นการซื้อสินค้าและบริการ นอกจากนี้มาตรฐาน CIPURSEยังครอบคลุมถึงตั๋วโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ที่บรรจุอยู่ในโทรศัพท์มือถือที่ใช้เทคโนโลยีNFCหรืออุปกรณ์อื่นๆ ของผู้ผลิตหลายราย มาตรฐาน CIPURSE จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเชื่อมโยงระบบจัดเก็บค่าโดยสาร ในระบบตั๋วร่วมที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย 
 
 
 
 
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง