นายกฯยืนยันไม่ตั้งค่ายผู้อพยพชาวโรฮิงญา

กลายเป็นประเด็นร้อน ที่หลายภาคส่วนรอคำตอบว่า รัฐบาลจะเปิดจุดพักชั่วคราวให้ชาวโรฮิงญาจริงหรือไม่ และจะเลือกพื้นที่ใด ซึ่งมีคำยืนยันจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า จะไม่มีการตั้งค่ายอพยพหรือศูนย์พักพิง เพราะไม่มีพื้นที่รองรับ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวระหว่างการลงพื้นที่ติดตามปัญหาชาวโรฮิงญาแถบทะเลอันดามัน ใน จ.ภูเก็ต โดยมีผู้บัญชาการกองเรือภาคที่ 3 และ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง,กระบี่,ภูเก็ต,พังงาและสตูล ร่วมหารือ

พล.อ.ประวิตร ยังชี้แจงว่า ที่ผ่านมาไม่เคยผลักดันชาวโรฮิงญาที่อพยพทางเรือออกจากน่านน้ำไทยแต่เป็นการอำนวยความสะดวกเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3 ตามที่ผู้อพยพร้องขอ

ขณะที่นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประวิตร เป็นการหาสถานที่เพื่อดำเนินคดีกับการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฏหมาย ซึ่งหากมีการหลั่งไหลเข้ามาในประเทศจำนวนมาก ดังนั้นจึงอาจจัดตั้งเป็นศูนย์ควบคุมไม่ใช่ศูนย์พักพิง หรือ ศูนย์อพยพและเมื่อถูกถามเกี่ยวกับกรณีที่ตำวจพบเอกสารที่มีชื่อทหารยศนายพลเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะลงโทษตามกฏหมายทันทีหากพบว่าผิดจริง

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก ชี้แจงว่า การปรับย้ายกำลังพลเมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากพบว่ารู้จักกับขบวนการค้ามนุษย์ จึงต้องย้ายออกมาก่อน และหากจำเป็นต้องขยายพื้นที่ศูนย์พักคอย ซึ่งเป็นคนละรูปแบบกับศูนย์อพยพ แต่ต้องรอความชัดเจนจากนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง