การออกมาเตือนถึงความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจ ของสถาบันจัดอันดับ มูดี้ส อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ในการดำเนินนโยบายรับจำนำข้าว นับเป็นอีก 1 ปัจจัยสำคัญที่สั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะสร้างความสูญเสียต่องบประมาณมหาศาล การวางคณะรัฐมนตรีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทรวงพาณิชย์ ในการเข้ามาจัดการโครงการรับจำนำข้าว จึงเป็นบทพิสูจน์ฝีมือของรัฐมนตรีพาณิชย์คนใหม่ ที่ต้องแบกภาระหนัก กู้ภาพลักษณ์ของรัฐบาล
ศ.ตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เห็นว่า การปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ไม่ได้ส่งผลต่อนโยบายของรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาก็ได้ดำเนินการนโยบายประชานิยมไปมากแล้ว และทีมงานยังเป็นหน้าเดิม พร้อมแนะว่ารัฐบาลควรลดนโยบายประชานิยมต่าง ๆ ลงได้แล้ว
สอดคล้องของกับมุมมองของนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวภาคเอกชนในวงการค้าข้าว เห็นว่าภาพรวมของคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ อยู่ในเกณฑ์ดี แต่สิ่งที่อยากเห็น คือความร่วมมือของรัฐบาลกับเอกชน ในการแก้ไขปัญหาโครงการรับจำนำข้าวอย่างจริงจัง ต่อรัฐบาลยังไม่สามารถเลี่ยงการขาดทุนได้
ไม่ต่างกับ ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ (ทีดีอาร์ไอ) ที่ระบุว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ และรัฐบาลต้องเร่งดำเนินการต้องกำหนดยุทธศาสตร์การค้าข้าว โดยเฉพาะการเร่งระบายข้าว และต้องสร้างความโปร่งใส
การประคองสถานการณ์และรักษาเสถียรภาพ นับเป็นโจทย์ใหญ่ ในการปรับคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะในกระทรวงเศรษฐกิจ ซึ่งจากผลสำรวจของเอแบคโพลล์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยละ 80 ต้องการเห็นรัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาปากท้องประชาชน และสินค้าราคาแพง เป็นอันดับแรก ซึ่งก็ยังเป็นหน้าที่หลักของกระทรวงพาณิชย์