หลังสื่อต่างประเทศนำเสนอข่าวขบวนการค้าชาวโรฮิงยา ใช้เกาะตะรุเตา อ.เมือง จ.สตูล เป็นจุดกักขังชาวโรฮิงยา ก่อนส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 และ มีเจ้าหน้าที่รัฐอย่างน้อย 10 หน่วยงาน คอยอำนวยความสะดวกเรียกรับผลประโยชน์จากขบวนการนี้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ออกมาปฏิเสธ โดยระบุไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐรับผลประโยชน์ และ จ.สตูลไม่มีจุดพักค้าชาวโรฮิงยา ส่วนภาพที่สื่อต่างประเทศนำมาเสนอนั้น เป็นชาวโรฮิงยาที่แวะพักอาศัยบนเกาะตะรุเตาหลบลมมรสุมก่อนออกเดินทางไปประเทศที่หมาย
ทั้งนี้สื่อต่างประเทศได้เสนอภาพการเข้าจับกุมชาวโรฮิงยา จำนวน 170 คน บนเกาะตะรุเตา อ.เมือง จ.สตูล ที่สื่อต่างประเทศ โดยนำเสนอข่าวว่าเป็นขบวนการค้าชาวโรฮิงยาบนเกาะตะรุเตา ถูกนายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ระบุว่า เป็นภาพเก่าที่บันทึกไว้ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.56
ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสตูล เข้าบุกจับชาวโรฮิงยา ขณะแอบขึ้นเกาะตะรุเตา และสร้างเพิกพักไว้ เพื่อรอให้ลมมรสุมสงบ ก่อนจะเดินทางไปยังประเทศที่ 3 ไม่ได้เป็นจุดพักถาวร อย่างที่สื่อต่างประเทศเสนอข่าว
ส่วนกรณีที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างน้อย 10 หน่วยงาน เข้าเรียกรับผลประโยชน์จากขบวนการค้ามนุษย์ ไม่เป็นความจริงเพราะจากการตรวจสอบแล้วไม่พบหน่วยงานใดเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
พล.ต.ต.สมควร คัมภีระ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า หลังสื่อต่างประเทศเสนอข่าวเกาะตะรุเตา เป็นเส้นทางค้ามนุษย์ชาวโรฮิงยา ขณะนี้ตำรวจได้ประสานไปยังอุทยานตะรุเตา เพื่อลงไปตรวจสอบดูร่องรอยอีกครั้ง ว่าบนเกาะตะรุเตา ถูกใช้เป็นจุดกักขังสำหรับการค้าชาวโรงฮิงยา และ คนต่างด้าวหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่สามารถยืนแน่ชัดได้ ต้องรอการตรวจสอบก่อน