สำนักงานตำรวจแห่งชาติสรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยางพารา ในพื้นที่แยกควนหนองหงษ์ จ.นครศรีธรรมราช และมีคำสั่งตั้งด่านตรวจค้นอาวุธ ตลอดจนปรับกำลังให้เหมาะสมกับสถานการณ์ 4 จุดรอบพื้นที่ชุมนุม โดยใช้กำลังประมาณ 5 กองร้อย
ขณะที่การดำเนินคดีตามกฎหมาย พบภาพหลักฐานผู้กระทำผิดทั้งสิ้น 12 คน รวมคดีต่างๆ 29 หมายจับ มีการรับแจ้งความแบ่งเป็น 4 กลุ่มเหตุการณ์ ได้แก่ เหตุทำลายป้อมยามที่พักสายตรวจ บริเวณแยกควนหนองหงษ์, ใช้ขบวนรถปิดเส้นทางแยกเตาปูน อ.จุฬาภรณ์, ใช้ขบวนรถปิดเส้นทางบริเวณแยกควนหนองหงษ์ และเหตุเผารถทำลายทรัพย์สินราชการ
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างรวบรวมภาพหลักฐานบุคคลที่แต่งกายเลียนแบบตำรวจทุบทำลายรถตำรวจ เพื่อออกหมายจับ รวมถึงการเฝ้าระวังการยกระดับการชุมนุม ซึ่งเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ประชุมร่วมกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ย้ำหลักการเจรจาเป็นแนวทางหลักก่อนจะบังคับใช้กฎหมาย และเบื้องต้นต้องเปิดเส้นทางให้ได้ โดยมีเพียงแยกควนหนองหงษ์ที่ยังมีการปิดถนน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชออกคำสั่งขยายเวลาห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ชุมนุมแยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จนถึงเที่ยงวันนี้ (18 ก.ย.)
เบื้องต้น ตำรวจควบคุมตัวแกนนำการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ไว้ 1 คน คือ นายชยนินทร์ คงสงค์ ส่วนแกนนำคนอื่นๆ ขณะนี้ก็รู้ตัวหมดแล้ว รวมถึงกลุ่มผู้ให้การสนับสนุนและกลุ่มฮาร์ดคอ ที่ก่อกวน ก็กำลังรวบรวมพยานหลักฐานในการออกหมายจับอยู่ พร้อมเร่งติดตามอาวุธและเครื่องมือประจำกายของตำรวจที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมยึดไปกลับคืนมา
สำหรับตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 40,000 บาท ส่วนผู้ที่บาดเจ็บสาหัส จะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 100,000 บาท เพื่อเป็นการบำรุงขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่