กัมพูชายื่นหนังสือค้านไทยสร้างถนน

ต่างประเทศ
15 ต.ค. 56
05:07
81
Logo Thai PBS
กัมพูชายื่นหนังสือค้านไทยสร้างถนน

ที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินคดีปราสาทพระวิหารฝ่ายไทยแถลงผลการประชุมกรรมการดำเนินคดีปราสาทพระวิหารแถลงชี้แจงข้อมูล หลังศาลโลกอาจเลื่อนการพิจารณาตัดสินคดีออกไปเป็นเดือนมกราคมปีหน้า ขณะที่ทางการกัมพูชายื่นหนังสือทักท้วงฝ่ายไทยกรณีก่อสร้างถนนลาดยางระยะทางเกือบ 400 เมตร บริเวณด่านพรมแดนถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ โดยอ้างว่าฝ่ายไทยทำผิดข้อตกลงระหว่างประเทศ

ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ประเทศกัมพูชา ยื่นต่อตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทยที่บริเวณด่านพรมแดนถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อทักท้วงกรณีฝ่ายไทยสร้างถนนติดกับด่านพรมแดนที่เชื่อมต่อเส้นทางหมายเลข 67 ของกัมพูชา พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายไทยยุติการก่อสร้างไว้ก่อน โดยอ้างว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ทั้ง 2 ประเทศไทยทำข้อตกลงร่วมกัน คือห้ามปลูกสร้างสิ่งใดๆ บริเวณด่านพรมแดนในรัศมี 200 เมตร หรือหากก่อสร้างก็จะต้องแจ้งให้ทราบ หรือพูดคุยระหว่างประเทศ
 
เบื้องต้น นายนพ พงศ์ผลาดิสัย นายอำเภอภูสิงห์ และ พ.อ.สาธิต เกิดโภค เป็นตัวแทนฝ่ายไทยเข้าไปเจรจากับ พล.ท.นวนโนว รองแม่ทัพภูมิภาคที่ 4 ประเทศกัมพูชา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป
 
ขณะที่ฝั่งกัมพูชา พบว่ามีการก่อสร้างถนนลาดยางจากบริเวณด่านพรมแดนถาวรช่องสะงำ มาแล้วหลายปี เพื่อเชื่อมต่อเส้นทางหมายเลข 67 รวมทั้งบ่อนคาสิโนที่อยู่ห่างจากด่านพรมแดนประมาณ 700 เมตร
 
ส่วนกรณีการพิจารณาคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงต่างประเทศ ประธานการประชุมคณะกรรมการดำเนินคดีปราสาทพระวิหารฝ่ายไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมหารือกันถึงการติดตามพัฒนาการความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี และการเตรียมพร้อมของฝ่ายไทยสำหรับผลการตัดสินของศาลโลกที่จะมีขึ้น
 
โดยความคืบหน้าในการพิจารณาคดีของศาลโลกในขณะนี้ เมื่อดูจากตารางการทำงานของศาลโลกในขณะนี้ พบว่าศาลยังมีคดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาจำนวนมาก ซึ่งฝ่ายไทยประเมินว่ามีแนวโน้มว่าการพิจารณาคดี และการมีคำตัดสินของศาลโลกน่าจะเลื่อนออกไปเป็นหลังเดือนมกราคม 2557
 
ขณะที่นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าทีมทนายคดีปราสาทเขาพระวิหารชี้แจงความคืบหน้าของคดี โดยระบุว่า แม้การพิจารณาคดีจะถูกเลื่อนออกไป แต่ทีมงานทุกส่วนของฝ่ายไทยได้เริ่มเตรียมความพร้อม เพื่อประเมินสถานการณ์ และตั้งรับกับผลการตัดสินที่จะเกิดขึ้น โดยกระทรวงต่างประเทศได้นัดหารือร่วมกับกระทรวงกลาโหม, กองทัพ, กรมแผนที่ทหาร และคณะกรรมการดำเนินคดีปราสาทเขาพระวิหาร


ข่าวที่เกี่ยวข้อง