ประชาธิปัตย์ค้านร่างแก้"รธน.มาตรา 190" ชี้เนื้อหาส่อขัดรธน.

การเมือง
15 ต.ค. 56
05:17
57
Logo Thai PBS
ประชาธิปัตย์ค้านร่างแก้"รธน.มาตรา 190" ชี้เนื้อหาส่อขัดรธน.

พรรคเพื่อไทยขอให้พรรคประชาธิปัตย์ นำหลักฐานกรณีที่กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงทุนทำธุรกิจพลังงานกับประเทศเพื่อนบ้านมาเปิดเผย ขณะที่ ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 190 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาในวันนี้ (15 ต.ค.) โดยระบุว่าทั้งเนื้อหาและกระบวนการส่อขัดรัฐธรรมนูญ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ในวาระ 2 และ 3 วันนี้มีทั้งหมด 4 มาตรา โดยพรรคประชาธิปัตย์ มีผู้แปรญัตติ 106 คน และสงวนความเห็น 13 คน ซึ่งวิปฝ่ายค้านพิจารณาแล้ว มีมติไม่ให้ความเห็นชอบ การแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว เพราะเห็นว่ากระบวนการพิจารณามีปัญหาตั้งแต่วาระแรก เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ขณะที่ในส่วนของเนื้อหา ก็เป็นการเพิ่มอำนาจฝ่ายบริหารลดอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติในการทำสัญญาของฝ่ายบริหาร ซึ่งทำให้รัฐบาลฉ้อฉลหาประโยชน์ เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มธุรกิจด้านพลังงาน โดยที่รัฐสภาไม่สามารถตรวจสอบได้

ด้านนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า หากร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ผ่านจากรัฐสภา อาจจะส่งผลต่อคดีของนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ถูกศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งนักการเมือง รับไว้พิจารณา ต่อการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิไม่ชอบ กรณีการไปลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะหลุดในคดีดังกล่าว

ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล  กล่าวว่า การพิจารณาคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันนี้ โดยไม่น่าจะยืดเยื้อ เพราะในวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.) ที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะมีการพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญอื่นๆ ส่วนการที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า การแก้ไขมาตรานี้เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อนักการเมืองในฝ่ายรัฐบาลที่ทำธุรกิจด้านพลังงานนั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ไม่ควรไปตั้งธงเช่นนั้น และพรรคประชาธิปัตย์ควรมีหลักฐานประกอบด้วย ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และ 237 นั้น ที่ประชุมวิปรัฐบาลยังไม่มีการหารือกัน โดยต้องรอให้การแก้ไขในมาตรา 190 เสร็จสิ้นไปก่อน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง