ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี เร่งรัดจ่ายเงินช่วยเหลือชาวสวนยาง ลดกระแสกดดันการชุมนุม
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรค่าปัจจัยการผลิตยางพารา เพื่อลดกระแสกดดันการชุมนุม เนื่องจากคาดว่า สุราษฎร์ธานีอาจเป็นจังหวัดต่อไปที่มีการเคลื่อนไหวชุมนุม ส่วนการชุมนุมที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ยังคงดำเนินต่อไป แม้จะมีการคาดการณ์ว่า อาจมีการยกเลิกการชุมนุมในเร็ว ๆ นี้
กลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยาง ที่ปักหลักชุมนุมใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังคงปักหลักชุมนุมต่อเนื่อง แม้จะเกิดเหตุไม่สงบในการชุมนุมหลายครั้ง ทั้งกรณีเกิดเหตุกราดยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม และการพบวัตถุต้องสงสัยบนรางรถไฟสายใต้ ที่หลัก กิโลเมตรที่ 378-300 ห่างไปทางใต้ประมาณ 500 เมตร จากจุดตัดรถไฟริมถนนสายถ้ำม้าร้อง หมู่ 1 บ้านฝ่ายท่า ตำบลพงศ์ประศาสน์ อำเภอบางสะพาน
ภายหลังการตรวจสอบ พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด ได้ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงยิงทำลาย พบว่า วัตถุดังกล่าวไม่มีเชื้อปะทุและดินปืน แต่มีเพียงถ่านไฟฉาย 2 ก้อน มีผ้าเทปสีดำพันแผงวงจรไฟฟ้าและมีสายไฟโผล่ออกมาหลายเส้น
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกับการดูแลความปลอดภัยการชุมนุมให้มากขึ้น ซึ่งหากกลุ่มผู้ชุมนุมพบสิ่งผิดปกติ ก็สามารถเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ได้ทันที
ส่วนสถานการณ์การชุมนุมจนถึงขณะนี้ พบว่า มีแกนนำบางส่วนเริ่มไม่มั่นใจต่อแนวทางการเคลื่อนไหว เพราะมีความเห็นต่างในการชุมนุม โดยมีแกนนำรายหนึ่งประกาศยุติการเคลื่อนไหว เนื่องจากเห็นว่า แกนนำบางคนเริ่มมีทิศทางในการปฏิบัติที่สวนทางต่อข้อเรียกร้อง 5 ข้อที่ประกาศยืนยันไปก่อนหน้านี้
ด้านนายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เรียกหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางรอการช่วยเหลือชาวสวนยาง เพื่อลดกระแสการกดดันทางการเมืองหรือการชุมนุมที่จะเกิดขึ้น โดยเชื่อว่า พื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่เป้าหมายที่อาจจะมีการชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัด จึงจำเป็นต้องวางมาตรการเตรียมพร้อมในการรับมือ
เบื้องต้นได้ติดตามการดำเนินการช่วยเหลือปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกรชาวสวนยางพารา ไร่ละ 2,520 บาท โดยจะเร่งจะดำเนินการในส่วนที่เหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมกับมอบหมายให้เกษตรจังหวัด ทำหนังสือถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบปัญหา ซึ่งจะได้นำเข้าสู่การประชุม ครม. พิจารณาแก้ไขปัญหา เพื่อให้เกษตรกรได้รับเงินช่วยเหลือเร็วขึ้น
