ไม่เพียงการชุมนุมคัดค้านกฏหมายนิรโทษกรรม ที่บริเวณถนนราชดำเนินเท่านั้น แต่วันนี้ (5 พ.ย.) ทั้งวันก็มีความเคลื่อนไหวคัดค้านกฏหมายดังกล่าวอีกหลายจุด
โดยที่บริเวณถนนสีลมชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตยและประชาชน ได้รวมตัวคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรม จนต้องปิดเส้นทางการจราจรในย่านดังกล่าว นายสมเกียรติ หอมละออ ประธานชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การชุมนุมประสบผลสำเร็จเกินคาด จากเดิมที่คาดว่าจะมีผู้มาร่วมประมาณ 2,000 - 3,000 คน แต่ปรากฎมีผู้ร่วมชุมนุมมากถึง 20,000 - 30,000 คน
โดยก่อนที่จะสลายตัวได้ประกาศนัดชุมนุม ในวันพุธที่ 6 พ.ย.นี้อีกครั้ง หากไม่ถอนร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม และรัฐบาลเพิกเฉยต่อเสียงคัดค้าน ก็ชุมนุมทุกวันจันทร์ และวันพุธ ซึ่งการคัดค้านกฎหมายฉบับนี้ ได้ขยายจุดร่วมออกไปเป็นวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแพทย์ นักวิชาการ และนักศึกษา ประชาชนทั่วไป ทั้งในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ
ทำให้วันนี้ (4 พ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด หลังกลุ่มญาติผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ชุมนุมปี 2553 เข้าพบและให้กำลังใจโดยกล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม คือการให้อภัยที่ยิ่งใหญ่ และชี้ว่า เนื้อหาของร่างกฎหมาย ไม่อาจทำให้ทุกฝ่ายยอมรับตรงกันได้ แต่ก็ร้องขอให้การชุมนุมคัดค้าน เป็นไปโดยสันติและเคารพกฎหมาย
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยว่า กองทัพได้ติดตามและประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา พร้อมยืนยันทหารไม่ออกมาดำเนินการใด ๆ หากยังไม่มีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา และเชื่อมั่นว่า คนไทยมีบทเรียนในอดีต ที่จะเรียนรู้วิธีการพูดคุยและถอยกันคนละก้าว เพื่อคลี่คลายและหาทางออกให้กับบ้านเมืองได้
ขณะที่นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ปฏิเสธแนวทางการยับยั้งร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมได้ทันที แต่ยืนยันที่จะชะลอการพิจารณาไว้ โดยจะบรรจุวาระการพิจารณาในวันที่ 11 พ.ย. และจะไม่เร่งรัดพิจารณา 3 วาระรวด ตามที่หลายฝ่ายกังวล พร้อมระบุไม่มีใครสามารถสั่งการวุฒิสภาได้