แกนนำ คปท.หารือกำหนดท่าทีชุมนุม หลังนายกฯแถลงถอนร่างนิรโทษฯ

ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า สถานการณ์ชุมนุมล่าสุดที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ หลังจากที่รับทราบว่านายกรัฐมนตรีมีการถอนร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมออกไป ทางแกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) คือนายอุทัย ยอดมณี และนายนิติธร ล้ำเหลือ ได้มีการร่วมประชุมกับแกนนำอยู่ แต่ว่าคือตอนนี้ยังไม่มีผลสรุปออกมาว่ามติของแกนนำจะยุติการชุมนุม หรือเดินหน้าต่อไป แต่ว่าเท่าที่เบื้องต้นได้สอบถามจากทางนายอุทัย ได้มีการยืนยันมาตลอดว่าจุดประสงค์ในการชุมนุมของกลุ่มอุรุพงษ์ที่เดินทางมาบริเวณทำเนียบ หรือว่าเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ณ ขณะนี้ มีจุดประสงค์ต้องการเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย โดยก้าวข้ามในเรื่องของการคว่ำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไปด้วย 

 

ทั้งนี้ ทางแกนนำ คปท.ได้มีการอธิบายชัดเจนว่าแม้ว่าทางรัฐบาลจะต่อให้มีการคว่ำร่างก็ตาม แต่ว่าปัญหาสำคัญของประเทศชาติอย่างเช่น การติดตามคนทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย หรือว่ากระบวนการทางยุติธรรมที่จะต้องเดินหน้ากันต่อไปตามหลักสากล หรือว่าตามหลักกฎหมายก็ถึงขั้นจะต้องมีการปฏิรูปกันเกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้ เวทีปราศรัยของทางฝั่งผู้ชุมนุมยังคงดำเนินต่อไปในระหว่างที่แกนนำบางส่วนได้ไปร่วมประชุมกัน ส่วนบรรยากาศคือสถานการณ์ทางผู้ชุมนุมยังค่อนข้างที่จะผ่อนคลายขึ้น รวมทั้งฝั่งของตำรวจด้วย ตอนนี้ทั้ง 2 ฝ่ายก็เรียกว่าสถานการณ์คลี่คลายขึ้นเยอะ หลังจากที่ได้มีการเผชิญหน้ากันตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงเที่ยงที่ผ่านมา 

 

ส่วนแนวโน้มที่จะมีการวางแผนเคลื่อนไหวไปยังจุดอื่นนั้น ตอนนี้ เท่าที่ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะออกแถลงการณ์ หรือว่าประกาศ ทางแกนนำยืนยันว่าจุดประสงค์คือต้องการที่จะใช้พื้นที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ในการที่จะตั้งเวทีปราศรัย และเป็นการชุมนุมยืดเยื้อ พูดง่ายๆ คือทิ้งเวทีจากที่อุรุพงษ์มาใช้มัฆวานรังสรรค์ และบริเวณพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นจัดยุทธศาสตร์ในการวางแผน และชุมนุมกันยืดเยื้อจนกว่าทางแกนนำจะมีการตัดสินใจว่าจะขับเคลื่อนอย่างไรต่อไป แต่ว่าเบื้องต้น จุดประสงค์หลักของเวทีตรงนี้คือนอกจากคว่ำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแล้ว ทางแกนนำก็ยังคงย้ำเหมือนเดิมว่าเรื่องของการปฏิรูปในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องกระบวนการยุติธรรม หรือว่าเรื่องของการบริหารจัดการประเทศ หรือว่าการแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง ระบบการยุติธรรม ความมั่นคง ทุกๆ ฝ่ายจะต้องหันหน้ามาร่วมเจรจากัน